'บิ๊กฉัตร'ยันมีน้ำใช้ถึงช่วงฤดูฝน ลั่นไม่มีนโยบายห้ามเล่นสงกรานต์

'บิ๊กฉัตร'ยันมีน้ำใช้ถึงช่วงฤดูฝน ลั่นไม่มีนโยบายห้ามเล่นสงกรานต์

วันจันทร์ ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559, 17.54 น.
Tag :

28 มี.ค. 59 เวลา 14.30 น. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย อธิบดีกรมชลประทาน นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้ว่าการการประปานครหลวง และผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์น้ำ การจัดสรรน้ำ และการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง ณ ห้องประชุม 1 อาคาร 1 กรมประชาสัมพันธ์

โดยพลเอกฉัตรชัย กล่าวว่า การแลงข่าวร่วมกันครั้งนี้ เพื่อทําความเข้าใจสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน  เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงมาตรการที่รัฐบาลได้บูรณาการแก้ไขวิกฤตที่เกิดขึ้น ยืนยันว่า ในส่วนน้ำอุปโภคบริโภคมีเพียงพอถึง กรกฎาคมอย่างแน่นอน ยืนยันว่า ไม่มีนโยบายที่จะห้ามประชาชนเล่นน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ขอความร่วมมือประชาชน เล่นน้ำกันพอประมาณ และประหยัดน้ำ อย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อครัวเรือน


สำหรับแผนการบริจัดการน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคนั้นปัจจุบันมีประปาสาขาที่เฝ้าระวัง จํานวน 25 สาขา แบ่งเป็น จ่ายน้ำเป็นเวลา/แบ่งโซนจ่ายน้ำ จํานวน 3 แห่ง ลดแรงดัน/ลดอัตราจ่าย จํานวน 17 แห่ง และในพื้นที่ที่จะประสบปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ จํานวน 5 แห่ง มีมาตรการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่การจุดเจาะบ่อบาดาล จำนวน 6,922 บ่อ ดําเนินการแล้ว 2,687 บ่อ คาดว่าจะสามารถขุดเจาะได้ครบทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้มีน้ำบาดาลเพิ่มขึ้น 33 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเหลือประชาชนได้ 11 ล้านคน

ด้านนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า ปัญหาภัยแล้ง ที่จังหวัดพะเยา จะดึงน้ำจากกว้านพะเยามาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค 16 ล้านลูกบาศก์เมตร  /ส่วนสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 58 ถึงปัจจุบัน(28 มี.ค. 59) มีปริมาณน้ำใช้การได้คงเหลือเฉพาะการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ ไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2559 อีกประมาณ 2,446  ล้านลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้จำแนกพื้นที่ประสบภัยแล้ง 3 ประเภท คือ 1.ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค จำนวน 6 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ 7 ของพื้นที่ภัยแล้ ได้แก่ น่าน สุรินทร์ ชัยนาท ชลบุรี ขอนแก่น และสระบุรี  ง/2.ปัญหาขาดแคลน้ำเพื่อการเกษตร  จำนวน 9 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ 53 ของพื้นที่ภัยแล้ง ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา สุโขทัย นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ กาญจนบุรี สระแก้ว จันทบุรี /3. จังหวัดที่มีปัญหาน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคและการเกษตร 7 จังหวัด คิดเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ภัยแล้ง ได้แก่ นครสวรรค์ เพชรบุรี อุตรดิตถ์ สตูล และนครราชสีมา

โดยมูลค่าความเสียหายจากภัยแล้ง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 ถึงปัจจุบัน มีพื้นที่เสียหาย 1.65 ล้านไร่ คิดเป็นปริมาณผลผลิต 996,525.52 ตัน มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 7,092.17 ล้านบาท รัฐบาลได้ใช้จ่ายเงินเชิงป้องกันหรือยับยั้ง รวมกรอบวงเงินทั้งสิ้น 125.26 ล้านบาท
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top