นางศิริวรรณ เกษตรสุนทร ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินสงขลา สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 เปิดเผยว่า สภาพดินใน จ.สงขลา มีความหลากหลาย บางพื้นที่สามารถทำการเพาะปลูกได้ดี แต่บางพื้นที่มีสภาพดินไม่เหมาะสมกับพืชที่ปลูก จึงได้ผลผลิตไม่เต็มที่ เกษตรกรขาดทุน และปล่อยพื้นที่เป็นนาร้าง สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา จึงมีแนวคิดพัฒนานาร้างให้กลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อย่างเต็มที่ โดยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 มีการฟื้นฟูพื้นที่นาร้างแล้วกว่า 50,000 ไร่ แบ่งเป็น เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน 21,000 ไร่ และปลูกข้าวกว่า 30,000 ไร่

นายชนิกร ทองใหญ่ นักวิชาการเกษตร ชำนาญการพิเศษ สถานีพัฒนาที่ดินสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า การสนับสนุนพัฒนาพื้นที่นาร้าง แบ่งเป็น 2 โครงการ คือ 1.พัฒนาเพื่อปลูกข้าว โดยสนับสนุนเรื่องการไถปรับพื้นที่และพัฒนาปรับปรุงดิน โดยใช้ปุ๋ยหมัก และส่งเสริมการใช้ข้าวพันธุ์ดีเพื่อเพิ่มผลผลิต 2.พัฒนาเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน โดยดำเนินการขุดคู ยกร่อง สนับสนุนพันธุ์ปาล์ม แนะนำวิธีปลูก ตลอดจนการบำรุงดูแล

นายธรรมนิตย์ ศรีภาโอภาส เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการปรับปรุงพื้นที่นาร้างเปิดเผยว่า หลังจากสถานีพัฒนาที่ดินสงขลาเข้ามาให้คำแนะนำและปรับปรุงนาร้างเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน ตั้งแต่การปรับปรุงพื้นที่ การพัฒนาปรับปรุงบำรุงดินไปจนถึงการปลูกและดูแลรักษา ทำให้ทุกวันนี้มีรายได้ที่มั่นคงจากการปลูกปาล์มน้ำมัน ความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น

นายดุนซิ ร่าหนิ รองประธานกลุ่มฟื้นฟูนาร้าง จ.สงขลา กล่าวว่า เมื่อก่อนทำนาปี แต่ได้ผลผลิตน้อย เพราะเมื่อถึงฤดูฝนจะมีน้ำท่วมขัง ต้นข้าวล้มตาย เกษตรกรไม่มีใครกล้าทำนา แต่หลังจากสถานีพัฒนาที่ดินสงขลามาพัฒนาพื้นที่นาร้าง เกษตรกรก็สามารถกลับมาทำนาได้ ผลผลิตดี คุ้มค่าการลงทุน บางรายผลผลิตสูงถึง 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ ชาวบ้านมีความพึงพอใจมาก

ดังนั้นจะเห็นว่า จากการสนับสนุนของกรมพัฒนาที่ดินและความตั้งใจของเกษตรกร ทำให้สามารถพลิกฟื้นผืนดินที่เคยรกร้าง ไม่สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ สามารถทำการเกษตรกรได้อีกครั้ง สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น