ภาพตัดต่อ?ญาติโยมไม่เชื่อสึกจริง แฉ‘สมีนิพนธ์’หนีซุกลพบุรี
จากกรณีมีผู้เสียหาย 7 ราย เข้าร้องเรียนกับ พระครูภาวนาวิมล ว.(สุพร ชัย สารธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสระกระเทียม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม ชั้นปกครองสายธรรมยุต ให้ดำเนินการเอาผิดกับพระครูภาวนา โสภิต หรือพระครูปลัดนิพนธ์ ธัมมทีโป อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย หรือสมีนิพนธ์ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดชื่อดังสายวัดป่าในจังหวัดนครปฐม โดยมุ่งเน้นไปในเรื่องการเสพเมถุน , ยักยอกทรัพย์ และข้อสงสัยต่อการบริหารจัดงานด้านการเงินภายในวัด จนกระทั่งทางคณะสงฆ์ที่เป็นคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้ได้ออกมาชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และพระนิพนธ์ได้สึกไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใดท่ามกลางความสงสัยของผู้ร้องเรียนที่ยังไม่เชื่อว่าสึกจริง ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ที่วัดสระกระเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม คณะชุดสอบสวน นำโดย พระครูภาวนาวิมล ว.(สุพร ชัย สารธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสระกระเทียม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม ชั้นปกครองสายธรรมยุต และพระสงฆ์คณะไต่สวนจาก จ.สุพรรณบุรี รวม 5 รูป ได้เชิญผู้ร้องเรียนเข้ามารับฟังการชี้แจงผลการสอบสวน ซึ่งเป็นแบบทางลับ
รายงานข่าว ระบุว่า ในที่ประชุมคณะสงฆ์ได้มีการแจ้งว่าพระนิพนธ์ ได้ส่งตัวแทนเป็นผู้หญิงส่งเอกสารแจ้งว่าพระนิพนธ์ ได้ลาสิกขาไปแล้ว โดยมีภาพถ่ายยืนยันมาแสดงในที่ประชุม และได้แจ้งว่าถือเป็นการยุติการทำงานของคณะชุดสอบสวน
เรื่องดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ร้องเรียน เนื่องจากเชื่อว่าภาพที่นำมาแสดงในที่ประชุมนั้นเป็นภาพตัดต่อ โดยที่ใบหน้าและลำตัวนั้น ไม่ตรงกันกับสรีระของพระนิพนธ์ ซึ่งในที่ประชุมไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพออกมา เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจสอบ โดยการประชุมราวเกือบ 2 ชั่วโมง ผู้ร้องเรียนแสดงเจตนาไม่รับผลการสึก ทางคณะพระปกครองผู้ทำการสอบสวน จึงทำเรื่องเตรียมเสนอกลับไปยังเจ้าคณะจังหวัดสายธรรมยุต เพื่อพิจารณาต่อไป
หลังการชี้แจงผลการสอบสวน ผู้ร้องเรียนทั้ง 7 ราย ได้พยายามหลบผู้สื่อข่าวออกไป โดยได้กล่าวเพียงว่าให้ไปสอบถามคณะพระที่สอบสวน โดยหนึ่งในผู้ร้องเรียน ให้ข้อมูลว่า การประชุมดังกล่าวได้นำภาพการลาสิกขาของพระนิพนธ์มาแสดง แต่หลายคนในที่ประชุมดูแล้วยืนยันว่าไม่ได้เป็นรูปจริง เนื่องจากเห็นแค่คอเท่านั้น และภาพก็ดูไม่เนียนเหมือนปกติ โดยยังมีหญิงคนที่สนิทกับพระนิพนธ์ดูแล้วยืนยันว่าไม่ใช่พระนิพนธ์
หนึ่งในผู้ร้องเรียนรายนี้ กล่าวอีกว่า ตนเป็นชาว จ.ลพบุรี ได้มาเข้าวัดดังกล่าว 2 ครั้ง เห็นพฤติกรรมของพระนิพนธ นั่งเมาอยู่ โดยมีหญิงสาวรายรอบ เห็นว่าไม่เหมาะสม กระทั่งมีคนในวัดที่เคยคลุกคลีในวงของพระนิพนธ์ได้ออกมาบอกข้อมูลถึงความสัมพันธ์แบบสามี-ภรรยา จึงพยายามเก็บข้อมูลมานานหลายเดือน จนแน่ชัด จึงเข้าร้องเรียนต่อตำรวจกองปราบปราม , คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) , สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม จนกระทั่งมีการสอบสวนมาเรื่อยๆ แต่เรื่องช้าไม่มีบทสรุป
“จนกระทั่งมาถึงการแจ้งว่าพระนิพนธ์ได้สึกไปแล้ว โดยทางคณะที่มาแจ้งว่าคนที่นำเอกสารมาให้นั้น มีบุคลิกคล้ายหนึ่งในหญิงสาวคนสนิทของพระนิพนธ์ จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นภาพตัดต่อ และทราบว่าล่าสุดพระนิพนธ์ได้หลบหนีไปที่ จ.ลพบุรี ซึ่งผู้ร้องเรียนจะได้ติดตามตัวต่อไป” หนึ่งในผู้ร้องเรียน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี