วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า โครงการหยุดการกรีดยางในพื้นที่สวนยางของหน่วยงานภาครัฐที่กำลังดำเนินการอยู่นั้น เป็นส่วนหนึ่งของโครงการควบคุมปริมาณผลผลิตภายใต้มาตรการการรักษาเสถียรภาพราคายางที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำมาใช้เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางควบคู่ไปกับมาตรการต่างๆโดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนม.ค.-มี.ค. 2561 ซึ่งขณะนี้ได้ให้มีการตรวจสอบว่ามีการขโมยกรีดยางในสวนยางของภาครัฐหรือไม่ หากมีการตรวจสอบพบว่า มีลูกจ้าง กยท.รายใดกรีดยางจะมีความผิด ต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาฐานลักทรัพย์นายจ้างด้วย
สำหรับกรณีที่กระทรวงเกษตรฯมีแนวคิดขยายโครงการหยุดกรีดยางเพิ่มเติมจากสวนยางของหน่วยงานภาครัฐ ไปสู่สวนยางของเกษตรกรทั่วไปที่มีเอกสารสิทธิถูกต้อง จำนวน 2 ล้านไร่ เป็นระยะเวลา3 เดือน คือ ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค.2561 เพื่อให้ปริมาณผลผลิตในตลาดลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคายางเพิ่มสูงขึ้นตามกลไกตลาดนั้นยังมิได้เป็นมาตรการที่จะดำเนินการทันทีอย่างที่มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนกันอยู่ เพราะกระทรวงเกษตรฯ ยังคงมีมาตรการอื่นๆ ในการผลักดันให้สถานการณ์ของยางพาราไปในทิศทางที่ดีขึ้น อีกหลายมาตรการ เช่น โครงการสนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) วงเงิน 20,000 ล้านบาท โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงิน 15,000 ล้านบาท เป็นต้น
“ขอย้ำว่าการขยายโครงการหยุดการกรีดยางดังกล่าว ยังคงเป็นเพียงแนวคิดเพื่อนำเสนอให้สาธารณชนไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐภาคเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร รวมไปถึงผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับยางพาราได้หารือระดมความคิดร่วมกัน ซึ่งจะนำมาวิเคราะห์ความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของมาตรการหยุดกรีดนี้ ว่าจะเกิดผลดีผลเสียเช่นไรต่อสถานการณ์ยางพาราในประเทศไทย รวมทั้งควรมีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไรในการชะลอหรือหยุดกรีดยางเพื่อให้มีประสิทธิภาพโดยไม่เสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์” นายธีธัช กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี