จากกรณีพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบก.ป.มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก ผกก.(สอบสวน) บก.ป.พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี กับ นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาทนั้น

จากการตรวจสอบพบว่า นายปรีชาและเจ๊บ้าบิ่นถูกออกหมายจับในความผิดฐาน 4 ข้อหา ประกอบด้วย 

1.ผู้ใดแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ข้อหาที่ 

2.ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความต่อพนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173

3.ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความต่อพนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำผิดเพื่อกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งถ้าการแจ้งความนั้น เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ตามมาตรา 174 วรรคสอง 

4.ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 ประกอบมาตรา 83