15 มี.ค.61 จากกรณีที่ นายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือ "แผน" พยานฝ่าย นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ "ครูปรีชา" ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพวิสุทธรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คู่พิพาท ร.ต.ท.จรุญ วิมูล หรือ "ลุงจรุญ" อดีตข้าราชการตำรวจ ในคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท เดินทางไปยังสภาทนายความ ถ.พหลโยธิน (ตรงข้ามโลตัสหลักสี่) เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบในประเด็นเกี่ยวกับมารยาทวิชาชีพทนายความ และพฤติกรรมของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนเพื่อเยาวชนและสังคม ทนายฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งมี นายพัฒนา จาติเกตุ อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความฯ เป็นผู้รับเรื่อง

โดย นายพัฒนา กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ทนายตั้มมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายเรื่อง ซึ่งตนเคยได้รับแจ้งจากศาลเกี่ยวกับการแต่งกายที่ไม่สุภาพของทนายตั้ม เช่น สวมเสื้อยืดคอกลม กางเกงยีนส์ ภายในบริเวณศาล รวมถึงตนได้เห็นเวลาที่ทนายตั้มพาลูกความไปออกสื่อ มีการข่มขู่คู่กรณีอีกฝ่าย ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ต้องถูกสอบสวนเพืื่อให้ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด หากพบว่ามีความผด ก็จะถูกดำเนินการตามมรรยาททนายความ

ด้าน ทนายตั้ม ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า "อย่างที่ทราบกัน #เสื้อทีมทนายประชาชน ที่ผมใส่ทำงานและช่วยเหลือคนมาตลอด วันนี้จะกลายเป็นเหตุผลของคนบางกลุ่มที่จะใช้เพื่อลบผมออกจากอาชีพทนายความ ผมไม่รู้หรอกนะว่าเสื้อตัวที่ผมใส่มันสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้ใครหนักหนา แต่ทั้งหมดในการทำงานมา เสื้อตัวนี้สร้างรอยยิ้มให้ผู้บริสุทธิ์มาไม่น้อย ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา คนรอบข้างผมภูมิใจ ผมมีโอกาสได้เป็นผู้ริเริ่มการทำ #โครงการพี่สอนน้องและได้ให้ความรู้เยาวชนมาแล้วกว่า 2 แสนคนทั่วประเทศ หากวันนี้ผมจะถูกลบชื่อออกเพียงเพราะมีคนไม่ชื่นชอบเสื้อของผม ถ้าสภาทนายความจะมองว่าเสื้อของผมผิดมรรยาททนายผม นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็พร้อมจะน้อมรับ ผมก็ยังคงภูมิใจ และไม่ว่าจะมีหัวโขนนำหน้าชื่อว่าอะไร ผมสัญญากับคนไทยว่า จะยังทำทุกอย่างตามสถานะเพื่อความเป็นธรรมให้มีอยู่ในสังคมไทย"