ประกาศ‘กูไม่มีวันยอมมึง’
สันธนะอาฆาต
รอดคุกหวิวได้ประกันตัว
ห้ามออกนอก-ยุ่งเหยิงพยาน
ซัด5นายพลสุมหัวกลั่นแกล้ง
‘วิระชัย’รอประเคนอีก22คดี
ผู้ค้า100รายยันถูกรีดไถจริง
สั่งปิดด่านสกัดเผ่นชายแดน
“สันธนะ” รอดนอนคุก ศาลให้ประกันตัววงเงิน 3 แสน มีเงื่อนไขห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน-ออกนอกประเทศ เจ้าตัวพร้อมสู้คดี ลั่น “กูไม่มีวันยอมมึง” ยันเอาคืน 8 ผู้ค้ากล่าวหารีดไถ พร้อม 5 นายพลตำรวจรวมหัวกลั่นแกล้ง ด้าน “วิระชัย” เดินหน้าคดี ย้ำชัดไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.ขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีต รอง ผกก.ส.ประธานที่ปรึกษาบริษัท ตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด ในข้อหากรรโชกทรัพย์ รวม 8 หมายจับ ซึ่งเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ และขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีก 10 ราย รวม 45 หมายจับ ว่า ร.ต.ท.ทศพร ดุดง รอง สว.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง ได้คุมตัว พ.ต.ท.สันธนะ ไปขออำนาจศาลอาญา ผลัดฟ้องฝากขังครั้งแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทันทีที่ลงจากห้องคุมขัง พ.ต.ท.สันธนะ มีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับชูมือให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนระบุว่า “นี่เป็นออเดอร์ ผมลูกค้าวีไอพีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อกี้นั่งรถมา มีคำสั่งพิเศษ บอกว่าให้กลับไปที่ สน.ใหม่อีกรอบหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร” และว่า เมื่อคืนมีคนของตนดูแล ก็เรียบร้อยดี ขอบคุณที่เป็นห่วง ได้เตรียมหลักทรัพย์มาพร้อม ตนมั่นใจกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่ได้ทำผิดอะไร ถ้าไม่ได้กระทำผิดแล้วถูกกระทำแบบตน สังคมจะอยู่ได้หรือไม่
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวต่อว่า มีพ่อค้าแม่ค้า 8 ราย บอกว่าตนไปรีดไถเงินเดือนละ 1,500 บาท เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้รับรายชื่อ 8เดนนรกแล้ว ตนจะฟ้องร้องกลับแน่ คนอย่างตน ดูชื่อ ตนไม่เคย เขาขายอยู่ตรงไหน ร้านไหน ไม่รู้จัก เป็นเรื่องจริงที่ 8หมาย ไม่มีผู้เสียหาย มันเป็นกระบวนการที่ผิดปกติทุกขั้นตอน ตนไม่มีวันยอมพวกคุณ คืนที่ผ่านมา นอนหลับฝันดี เพราะ สน.ดอนเมือง ก็เคยเป็นที่ทำงานเก่าสมัยเป็น สว.สส.และไม่กังวลเรื่องคดี ตนรู้มาว่ามีคำสั่งพิเศษจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ใส่กุญแจมือยี่ห้อโรเล็กซ์ ยี่ห้ออื่นไม่ได้ จึงยินดีทำตามความต้องการ ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า “กูไม่ยอมพวกมึง ไม่มีวัน” แล้วยกมือไหว้สื่อมวลชนที่มาปักหลักเฝ้ารอทำข่าว จากนั้นได้ขึ้นรถตู้ เดินทางไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก
ขณะที่ พ.ต.อ.พิเศษ สมชาย ประยูรรัตน์ อายุ 91 ปี บิดาของ พ.ต.ท.สันธนะ และผู้ติดตาม 7-8 คน ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ โดย พ.ต.อ.พิเศษ สมชาย นั่งวิลแชร์มารอติดตามการประกันตัวบุตรชาย ด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขัง พ.ต.ท.สันธนะ ได้มีการทำคำร้องระบุพฤติการณ์โดยสรุปว่า ช่วงเดือนเมษายน 2559 ถึงเดือนเมษายน 2561 ต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหากับพวก รวม 11 คน ร่วมกันเรียกเก็บเงินรายเดือนจากผู้ค้าในตลาดใหม่ดอนเมือง ร้านละ 1,000 -3,000 บาท โดยผู้ต้องหาแบ่งหน้าที่กัน เรียกเก็บเงินช่วงปลายเดือนทุกเดือน มีการเรียกเก็บค่าจอดรถยนต์เดือนละ 700 บาท ค่าจอดจักรยานยนต์เดือนละ 300 บาท ยังมีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามผู้ขาย ทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าจะเกิดอันตรายหากไม่ยอมจ่ายเงินดังกล่าว ขณะนี้มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 9 คดี และมีคดีที่ร้องทุกข์ดำเนินคดี พ.ต.ท.สันธนะ 8 คดี การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ,337 เหตุเกิดที่ตลาดใหม่ดอนเมือง อาคารแอร์พอร์ตพลาซ่า แขวงและเขตดอนเมือง กทม.
กระทั่งวันที่ 12 พฤษภาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหารายนี้ ได้ที่บ้านพักย่านถนนเรียบด่วนรามอินทรา ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนต้องสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมอีก 50 ปาก รอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือ และประวัติการต้องโทษจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร จึงขอฝากขังผู้ต้องหาไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-24 พฤษภาคม 2561
ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้กระทำเป็นขบวนการ มีผู้เสียหายจำนวนมาก ผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่คุกคามผู้เสียหายและพยาน ประกอบกับตรวจสอบพบประวัติผู้ต้องหากับพวก เคยถูกจับกุมในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวพาไปในเมือง หมู่บ้านฯ โดยไม่มีเหตุจำเป็น และร่วมกันมีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครอง
ทั้งนี้ ในการจับกุมผู้ต้องหากับพวก มีการครอบครองอาวุธปืนมากถึง 5 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 70 นัด อันมีลักษณะเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง หากศาลให้ประกันตัว เกรงว่าจะหลบหนี และการกระทำต่างกรรมต่างวาระหลายคดี มีผู้เสียหายกว่า 127 ราย ที่แจ้งความดำเนินคดีไว้ ทั้งยังมีความผิดเกี่ยวเนื่องอื่นๆ เป็นข้อหาหนัก มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ผู้ต้องหาเป็นหัวหน้ากลุ่มที่มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 20 คน อาจสั่งการให้ทำร้ายหรือข่มขู่ผู้เสียหายและพยานในคดีนี้ อันอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงได้
รวมทั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมือง กลุ่มผู้ต้องหายังปลอมตัวเป็นสื่อมวลชนปะปนกับเจ้าหน้าที่ แสดงตนให้กลุ่มผู้เสียหายและพยานเห็นอย่างเด่นชัด ว่าผู้ต้องหากับพวกยังมีอำนาจและศักยภาพในการปฏิบัติการที่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อผู้เสียหายและพยานได้ และปรามไม่ให้ผู้เสียหายและพยานให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอันเป็นอุปสรรคก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงาน หรือการดำเนินคดีในชั้นศาล อีกทั้งผู้ต้องหากับพวก ได้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของทางราชการอื่นๆ
ต่อมา นายอภิชาต ครัวเชื้อ ทนายความ พ.ต.ท.สันธนะ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 300,000 บาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.ท.สันธนะ ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พ.ต.ท.สันธนะ พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และผู้ต้องหาต้องเข้ารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.00 น.
ด้าน พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยภายหลังศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ว่าตลอดขั้นตอนฝากขัง ตนสังเกตเห็นความผิดปกติทั้งการเรียกคำร้องกลับ สน.ดอนเมือง เพื่อแก้ไขและพยายามนำตนกลับ สน.อีกครั้ง แต่ตนไม่ยินยอม เมื่อคำร้องฝากขังกลับมา ก็พบว่าได้แนบท้ายขอคัดค้านการประกันตัวนับ 10 ข้อ เพื่อให้ศาลพิจารณาไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่ศาลให้ความเป็นธรรม
พ.ต.ท.สันธนะ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เคยระบุว่ามีความขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพลฝ่ายรัฐ ว่า เรื่องนี้เริ่มต้นจาก 3 นายพลตำรวจ ตอนนี้ขยับเป็น 5 นายพล ที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ มุ่งเป้าหมายมาที่ตน ดูการปฏิบัติจากควบคุมตนก็จะทราบว่ามีการเตรียมกำลังมาเป็นร้อย และเตรียมปฏิบัติด้วยความรุนแรง บุกค้นคอนโดฯ จนคนแตกตื่น ตนจะทำหนังสือถึง ผบ.ตร.ให้ทราบ ว่าใครคือนายพลที่มีปัญหากับตน และการปฏิบัติที่ผ่านมาก็รุนแรงและเลือกปฏิบัติ
“หลังจากนี้ทางคดีที่มี 8 พ่อค้าแม่ค้าร้องทุกข์ ทำให้สงสัยว่าผมไปรีดทรัพย์ใคร ในหมายจับก็ไม่ได้ระบุข้อเท็จจริง ไม่รู้เลย จะต้องมีการชักจูงโน้มน้าว 8 คนดังกล่าว ผมได้ชื่อแล้ว ต่อไปจะทำการตรวจสอบว่า เป็นผู้ค้าจริงหรือไม่ อยู่ล๊อคไหน ซึ่งทั้ง 8 ราย อ่านชื่อแล้วไม่รู้จักเลย ผมต้องฟ้องกลับแน่นอน” และว่าหากมีการร้องเรียนเพิ่มและขอออกหมายจับอีก เรื่องนี้ทนายความตนได้ยื่นคำร้อง ขอศาลว่าหากมีการเพิ่มผู้เสียหายก็ให้แจ้งข้อหามา แต่ในส่วนการขอออกหมายจับ หมายค้น ที่มีการเตรียมการไว้ก่อน ตนจะขอให้ศาลพิจารณาให้ความเป็นธรรม เนื่องจากคดีนี้อยู่ในอำนาจศาลแล้ว
ภายหลังให้สัมภาษณ์เสร็จ พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวว่า ขอกลับบ้าน ไปพักผ่อนสักครึ่งวัน จากนั้นจึงเดินไปที่รถตู้สีดำ ซึ่งมี พ.ต.อ.พิเศษ สมชาย บิดา นั่งอยู่ในรถ พร้อมกับนั่งลงกราบที่ตักและสวมกอดก่อนเดินขึ้นรถอีกคันกลับไป
วันเดียวกัน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.พร้อมคณะ เรียกประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีการกวาดล้างเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ไม่มี อย.และสินค้าผิดกฎหมาย ที่ ตลาดใหม่ดอนเมือง รวมถึงคดีของ พ.ต.ท.สันธนะ โดย พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ได้คุมตัว พ.ต.ท.สันธนะ ไปขออำนาจศาลฝากขังแล้ว ซึ่งผู้ต้องหามีการกระทำผิดในอีกหลายข้อหา และขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าให้ปากคำแล้วมากกว่า 100 ราย นอกจากนี้ยังมีความผิดเพิ่มเติมที่มีอัตราโทษสูง อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องหารายอื่นได้เร่งสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่าได้แยกย้ายกันหลบหนีไปตามตะเข็บชายแดน แต่ยังไม่พบว่าหลบหนีออกนอกประเทศ
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า ขอให้มั่นใจโดยเฉพาะผู้เสียหายและพยานทั้งหมดในคดีจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากถูกฟ้องร้องตามที่ผู้ต้องหาอ้าง ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมจะให้ความเป็นธรรม เพราะจากที่สอบสวนผู้เสียหาย พบข้อเท็จจริงต่างๆ ซึ่งหากมีการแจ้งความดำเนินคดีเขาเองก็อาจจะกลายเป็นผู้กระทำผิดฐานแจ้งความเท็จ หรือฐานฟ้องคดีอันเป็นเท็จ
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ผู้เสียหายอีก 100กว่าราย ตนได้ร่วมสอบสวนแล้วพบว่าเป็นผู้เสียหายจริง จ่ายเงินจริง การดำเนินคดี พ.ต.ท.สันธนะ ไม่มีการใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งใดๆ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย เริ่มจากที่ตนและคณะทำงานได้รับรายงาน ว่ามีประชาชนเสียชีวิตจากการใช้ยา เครื่องสำอาง อาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงทำการสืบสวน กระทั่งทราบต้นตอที่มาว่าอยู่ในตลาดใหม่ดอนเมือง จึงต้องดำเนินการแบบขุดรากถอนโคน แต่กลับมีผู้เข้ามาขัดขวางตามที่เป็นข่าว เมื่อตรวจสอบลึกลงก็ทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทผู้รับสัมปทาน หรือเช่าที่จากกรมธนารักษ์ และพบว่ามีกลุ่มผู้กรรโชกทรัพย์ ประมาณ 15-20 คน ยืนยันว่าเป็นการทำงานเพื่อประชาชน ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี