วันจันทร์ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 09.04 น.
การศึกษามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กำหนดนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของประเทศที่มุ่งยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งเป็นโจทย์ของกระทรวงศึกษาธิการในการขับเคลื่อนการดำเนินงานการพัฒนาการศึกษาของชาติและปักหมุดไปข้างหน้าเพื่อพัฒนาคุณภาพสู่การศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑
ห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำเนินการปฏิรูป เพื่อแก้ปัญหา ปรับปรุง และพัฒนา
งานภายใต้กรอบการปฏิรูปใน ๖ ด้าน ประกอบด้วย การปฏิรูปครู การเพิ่มและกระจายโอกาสทางการศึกษา
การปฏิรูปการบริหารจัดการ การผลิตและพัฒนากาลังคนเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน การปฏิรูปการเรียนรู้ และการปรับระบบ ICT เพื่อการศึกษา โดยมีผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ดังนี้
ด้านการปฏิรูปครู ได้ดำเนินการโครงการสำคัญในหลายเรื่อง อาทิ การพัฒนาศักยภาพครู โดยเฉพาะ
ภาษาอังกฤษ ผ่านโครงการ Boot Camp การตั้งสถาบันคุรุพัฒนา เพื่อการพัฒนาครูแบบครบวงจรเพื่อลดการจัดอบรมสัมมนาซาซ้อน แก้ปัญหาครูออกนอกห้องเรียน การดึงคนเก่งคนดีมาเรียนครูผ่านโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น จะทาให้ได้ครูเก่งที่ทางานในภูมิลาเนา จานวนถึง ๒๖,๙๗๖ คน ในระยะเวลา ๕ ปี นอกจากนี้ ยังสร้างขวัญและกาลังใจให้ครูผ่านโครงการต่าง ๆ อีกมากมาย ทั้งการปรับระบบการพัฒนาวิทยฐานะที่มุ่งเน้นการประเมินจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติงานของครูแทนการตรวจเอกสาร การปรับปรุงบ้านพักครู การแก้ปัญหาหนี สินครูด้วยการลดดอกเบี้ย ชพค. เหล่านี้ เพื่อพัฒนาศักยภาพครู เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนต่อไป
การเพิ่ม กระจายโอกาส และพัฒนาคุณภาพการศึกษา ได้ดำเนินโครงการสำคัญต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ดังนี้ การจัดการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนภาคใต้ จัดการศึกษาของศูนย์ศาสนาอิสลามประจามัสยิด สถาบันศึกษาปอเนาะ จัดตั้งโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้และอาชีวศึกษาประชารัฐ สำหรับเด็กที่มาจากครอบครัวผู้มีรายได้ หรือได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ ดำเนินการเปิดไปแล้วจำนวน ๖๘ แห่ง การกระจายโอกาสให้กับเด็กที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล โรงเรียนขนาดเล็ก ผ่านโครงการติวฟรีดอทคอม DLTV DLIT โรงเรียนดีใกล้บ้าน โรงเรียนประชารัฐ รวมทั้งการจัดการศึกษาให้กับประชาชนทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ประชาชนวัยแรงงาน การจัดการศึกษาอาชีพสำหรับประชาชนกว่า ๕๐๐,๐๐๐ คนต่อปี การปรับระบบสอบเข้า สถาบันอุดมศึกษา ตลอดจนการจัดทาแผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ การศึกษาสาหรับผู้พิการ ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นการศึกษาที่มีคุณภาพสาหรับคนทุกคน
การปฏิรูปการบริหารจัดการ ได้มีการปรับระบบการบริหารจัดการในหลายเรื่อง ดังนี้ พัฒนาการจัดการศึกษาในรูปแบบ Partnership School มีโรงเรียนเข้าร่วม จานวน ๔๒ แห่ง และบริษัทเข้าร่วม จำนวน ๑๑ แห่งกำหนดวิธีการจัดการสอบผู้อานวยการเขตพื้นที่ในรูปแบบใหม่ โดยมุ่งเน้นให้ได้คนเก่ง และป้องกันการทุจริตจากการคัดเลือก การปรับวิธีการประเมินและการประกันคุณภาพสถานศึกษา ที่สามารถประหยัดงบประมาณกว่าพันล้านบาท แต่เป็นการประเมินเพื่อพัฒนาและไม่เป็นภาระให้ครู การประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ การจัดตั้งกระทรวงใหม่ที่ดูแลการศึกษาระดับอุดมศึกษา การตรากฎหมายเกี่ยวกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา การสื่อสารสร้างความเข้าใจในการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในรูปแบบที่ทันสมัยผ่านโครงการการสร้างการรับรู้การดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนการเร่งปราบปรามการทุจริตในกระทรวงศึกษาธิการ อาทิ ปราบปรามทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ปราบปรามทุจริต MOE Net ปราบปรามทุจริตการตรวจสอบ โครงการก่อสร้างอควาเรียม สงขลา เพื่อให้เกิดการบริหารงานของกระทรวงศึกษาธิการเป็นไปด้วยความสุจริตและมีประสิทธิภาพ
การผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน เป็นการผลิตและพัฒนาคนให้ตรงกับ
ความต้องการของการพัฒนาประเทศ ดำเนินโครงการสำคัญ ดังนี้ จัดหลักสูตรอาชีวะพันธุ์ใหม่ ดำเนินการสร้างและผลิตอาชีวะในอุตสาหกรรม จัดหลักสูตรอาชีวะพันธุ์ใหม่ที่เน้นผลิตช่างในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ๕ สาขา มีวิทยาลัยอาชีวศึกษา เข้าร่วมทั้งหมด ๒๗ แห่ง มีเป้าหมายผลิตอาชีวะพันธุ์ใหม่ให้ได้ ๘,๕๐๐ คนใน ๕ ปี มาตรการลดการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษา ที่ส่งผลให้การทะเลาะวิวาทลดลงอย่างต่อเนื่อง สัตหีบโมเดลที่เน้นการเรียนจริง รู้จริง ได้ลงมือทาจริง ผลิตกำลังคนในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ New S-Curve สร้างระบบการเตรียมนวัตกรรมในพื้นที่ EEC การจัดการศึกษาด้านอาชีพให้กับประชาชนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีผู้ประกอบการพัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ๖,๖๐๐ คน/ปี โครงการห้องเรียนอาชีพที่เรียนสามัญคู่กับสายอาชีพ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพ จบแล้วมีงานทำ มีโรงเรียนนาร่อง๖ แห่ง การสร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมของประเทศใน ๘ สาขาวิชา มีสถาบันอุดมศึกษาเปิดสอนในปี ๒๕๖๑ จานวน ๒๐ แห่ง ๒๓๕ หลักสูตร โครงการจัดตั้งศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากาลังคนอาชีวศึกษาเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก เพื่อส่งเสริมและเพิ่มปริมาณผู้เรียนอาชีวศึกษา โดยจะดำเนินการได้ครบทุกภาค การศึกษาระบบ KOSEN เพื่อเตรียมกำลังคนของประเทศ ซึ่งจะเป็นการเตรียมกำลังคนที่สำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
การปฏิรูปการเรียนรู้ ได้ดำเนินการจัดการศึกษาสาหรับผู้มีความสามารถเฉพาะด้าน ผ่านโครงการ
ห้องเรียนกีฬาห้องเรียนดนตรี โครงการสานฝันการกีฬาชายแดนใต้ เพื่อให้เป็นไปตามศักยภาพ การเสริมสร้าง
อุดมการณ์รักชาติ ศาสนาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยโดยปรับหลักสูตรให้เพิ่มเติมทางประวัติศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ผ่าน STEM ศึกษา การพัฒนาเด็กให้อ่านคล่องเขียนคล่อง รวมถึงให้ประชาชนอ่านออกเขียนได้ทุกคน การจัดทำแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษผู้เรียนผ่านโครงการ English for All EchoV รวมถึงการพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏให้เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอย่างแท้จริง
การปฏิรูป ICT เพื่อการศึกษา โดยการพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ต และระบบฐานข้อมูล ได้แก่ การดำเนินโครงการจัดหา High Speed Internet ในโรงเรียน ที่ให้โรงเรียนเลือกผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเอง ทาให้โรงเรียนมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงใช้ และสามารถลดค่าใช้จ่ายจากเดิมปีละประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านบาท และโครงการ Big Data กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูลกลางของทุกหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการให้สามารถรองรับการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฐานข้อมูลกลาง
ของกระทรวงศึกษาธิการ ได้แบบ On-Line Real Time ทำให้สามารถใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการฐานข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของผลสัมฤทธิ์การปฏิรูปการศึกษาจากการดาเนินการตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่กระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนของประเทศมีคุณภาพและมีศักยภาพที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ อันเป็นพื้น ฐานในการพัฒนาประเทศไทยให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และสามารถแข่งขันได้อย่างเต็มภาคภูมิ