22 ม.ค.58 การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานในการประชุม โดยมีวาระเร่งด่วน เพื่อดำเนินการกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง กรณีไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวตามมาตรา 6 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราวปี 2557 ประกอบมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ยืนอ่านคำแถลงปิดสำนวน ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวหาว่า ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจ และได้อ่านคำตอบที่เตรียมไว้

ประเด็นแรก โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ไม่ได้เกิดความเสียหาย แต่กลับให้เกิดผลประโยชน์มากมาย มีการกระจายรายได้ มีการใช้จ่าย มีเงินหมุนเวียน กว่า 3 แสนล้านบาท กว่า 2.7 % ของจีดีพีภายในประเทศ ดูแลชาวนา 27% ของประชาชนทั้งประเทศ ทำให้ประชากินดีอยู่ดี ส่วนหนี้สาธารณะมีเพียง 45% ต่ำกว่าเพดานที่ตั้งไว้ 60% ซึ่งย้ำว่า การดูแลประชาชน ไม่ถือว่าเป็นความเสียหาย รัฐบาลของตน ไม่เคยเพิ่มภาษีใด ซ้ำยังลดภาษีบางตัวเสียด้วยซ้ำ

ประเด็นที่สอง เมื่อทราบว่ามีความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว แต่ยังดำเนินการต่อนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า การนำตัวเลขการปิดบัญชีหลายปีมาแสดงนั้น ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อรัฐบาล ซึ่งโครงการมีความคุ้มค่า

ประเด็นที่สาม รัฐบาลไม่มีความจริงใจการปราบปรามการทุจริต นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า มีการตั้ง คณะอนุกรรมการเพื่อติดตามการทุจริต ถึง 12 ชุด และมีการตั้งอนุกรรมการคณะต่างๆ โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว  มีการจ่ายเงินผ่านบัญชีชาวนาโดยตรงเพื่อป้องกันการรั่วไหล การทุจริต

ประเด็นที่สี่ การผูกข้าวของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า โครงการรับจำนำข้าว ชาวนาได้นำข้าวเพียงครึ่งหนึ่ง มาเข้าโครงการจำนำกับรับบาล ฉะนั้นเอกชน สามารถค้าได้ตามปกติ ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำลายกลไกราคาตลาด  และไม่ก่อให้เกิดความทุจริต

ประเด็นที่ห้า การปลอมข้าว ข้าวหาย นางสาวยิ่งลักษณ์ ระบุว่า รัฐบาลได้ตั้งผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน ถึงกรณีดังกล่าว

อย่างไรก็ดี นางสาวยิ่งลักษณ์ อ่านคำแถลงที่เตรียมมาในช่วงท้าย ระบุุว่า เหตุใด ตนเองจึงถูกดำเนินการเพียงลำพัง ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดโกง ไม่เคยกระทำการใดๆ ที่ส่อไปในทางทุจริต และได่้ปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมขอโอกาสให้ประชาชนได้ลืมตาอ้างปาก เร่งช่วยเหลือชาวนา ซึ่งโครงการรับจำนำข้าวง เป็นโครงการแรกเริ่ม ที่จะทำให้ประชาชนได้ลืมตาอ้างปาก อย่างน้อยก็ทำให้มีรายได้เท่าค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งไม่อยากให้มองเป็นผลประโยชน์ กำไร ขาดทุน เหมารวมผิดทั้งโครงการ อย่ามองเหรียญเพียงด้านใดด้านหนึ่ง โดยเทียบการจำนำข้าว ว่ามีประโยชน์กว่าการแจกเงิน ที่มั่วแต่รอคอยโอกาส

นางสาวยิ่งลักษณ์ ยังอ่านข้อความที่เตรียมมาว่า ตนเองพร้อมที่จะพิสูจน์ตนเอง แต่ต้องมีความยุติธรรมในสังคมด้วย