29 ต.ค. 58 เมื่อเวลา 14.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการขยายเวลาสอบพยานเพิ่มเติมของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว กระทรวงการคลังที่จะครบกำหนดวันที่ 30 ต.ค.ว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯสามารถขอขยายเวลาได้อีกหากยังไม่เสร็จ ให้ตนเดาเชื่อว่าจะขอขยายเวลาต่อไปอีก เพราะก่อนนี้เดิมจะครบในวันที่ 30 ก.ย. แต่ผู้ถูกกล่าวหาขอระบุพยานจึงขยายให้เป็น 30 ต.ค. ขณะนี้ตนทราบว่าพยานเหล่านั้นได้มาแล้วบางคน แต่บางคนยังไม่ว่าง แจ้งมาว่าจะมาชี้แจงในเดือนพ.ย. จึงเห็นว่าน่าจะขยายเวลาต่อไปอีกเพื่อรอพยานเหล่านั้น ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทราบว่ายังไม่มา ทั้งนี้ การขอขยายเวลาต้องขอกับรมว.คลัง และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากทั้ง 2 คน เป็นคนลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับผลสอบของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯกระทรวงพาณิชย์ที่ส่งมาก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้ส่งไปให้นายกฯ เนื่องจากได้มีการสอบถามความชัดเจนกลับไปยังกระทรวงพาณิชย์อีกครั้ง และขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งกลับมาแล้วในวันเดียวกันนี้ (29 ต.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดูอยู่ แต่ตนยังไม่ได้ดูว่าคำนวณอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังจะไม่รอส่งให้นายกฯพร้อมกัน และขอยืนยันว่าไม่ได้เร่งรัดหรือกลั่นแกล้ง ซึ่งทั้งหมดที่ต้องเร่งทำอยู่เพราะมีเหตุผล 3-4 ข้อ คือ 1.กำหนดระยะเวลามีอายุความ 2 ปี จะต้องเร่งรัดเอ้อระเหยลอยชายไม่ได้ 2.กระบวนการที่สอบมาถึงวันนี้ยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นต้องให้จบในกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วเพื่อให้ไปสู่กระบวนการของกระทรวงการคลังในการตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง คือต้องมีการสอบอีกชั้น บวกการออกคำสั่งทางปกครอง ซึ่งกระบวนการยาวกว่าที่ผ่านมา 3.ในกระบวนการที่เหมือนจะเร่งรัดนั้นไม่มีการกลั่นแกล้ง เพียงแต่ต้องเดินอย่างนั้น ขณะเดียวกัน ได้กำชับในเรื่องให้ความเป็นธรรม ถึงได้มีการขยายเวลาเพื่อรับฟังพยาน และ4.กรณีของกระทรวงพาณิชย์มีเหตุที่จะต้องฟ้องหรือดำเนินคดีกับเอกชน
รองนายกฯ กล่าวว่า กรณีของอดีตนายกฯไม่มีเรื่องที่จะดำเนินคดีกับเอกชน แต่กรณีขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ต้องดำเนินการคดีกับเอกชนหลายราย ซึ่งอายุความที่ต้องดำเนินการกับเอกชนนั้นสั้นกว่า คือสั้นไปอีก 1 ปี ไม่เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐ และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น เพราะต้องรอฟังเจ้าหน้าที่ของรัฐที่รับผิดเสียก่อน จำเป็นต้องรู้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐใครรับผิดเท่าไรแล้วจึงไปคิดการรับผิดของเอกชน จึงต้องพยายามทำเรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เสร็จโดยเร็วในขั้นตอนการสอบข้อเท็จจริง ดังนั้น จุดเริ่มต้นเดินมาเหมือนกัน กระทั่งมาถึงจุดหนึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐจะเลี้ยวซ้ายไปเข้ากระบวนการอีกยาว ส่วนเอกชนจะจบลงตรงนี้สามารถดำเนินการได้ แต่การดำเนินการต้องใน 1 ปี ไม่อย่างนั้นจะขาดอายุความ ซึ่งทั้งหมดคือ เหตุผลว่าทำไมต้องเร็ว โดยเอกชนต้องแล้วเสร็จในเดือนก.พ.59 นี่คือปัญหา
เมื่อถามว่า กรณีตัวเลขค่าความเสียหายต้องดูจากค่าเช่าโกดังการเก็บรักษาที่เพิ่มมากขึ้นด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในขณะนี้มันจบลงโดยไม่ได้บวกอนาคต ด้วยเหตุว่าต้องตัดลงตรงที่ใดที่หนึ่ง แต่พอถึงเวลาที่จะออกคำสั่งทางปกครองหรือฟ้อง ซึ่งแล้วแต่ว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากเอกชนจะต้องใช้วิธีฟ้อง เพราะใช้คำสั่งทางปกครองไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้นมันง่าย เพราะเรารู้สูตรแล้ว โดยคูณระยะเวลาเข้าไปจนถึงวันที่ออกคำสั่งทางปกครอง เมื่อถามย้ำว่า ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะเรียกค่าเสียหายได้ก่อนสิ้นปี 58 แต่เมื่อมีการสอบพยานเพิ่ม แสดงว่าการดำเนินการจะไม่ทันสิ้นปี 58 แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า บางรายมันได้ ย้ำอีกทีเรื่องนี้มันไม่ใช่เป็นการฟ้อง แต่เป็นการออกคำสั่งทางปกครอง สื่อถามพอแล้ว เพราะถ้าตนพูดไปทุกวัน มันไม่ดี คนทำความผิดไม่ใช่อาชญากร ไม่ควรมาตอกย้ำกันทุกวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี