ตอก‘ต่อตระกูล’วุ่นวาย
ตู่อุ้มป้อม
บอกมีกม.-ไม่ไล่ใครออก
มั่นคงปล่อยข่าวยุบ‘เพื่อไทย’
ซัดวิ่งพบ‘แม้ว’มีความผิดชัด
‘ประวิตร’โวยมีเกิน3กลุ่มป่วน
ลางร้าย!อีกาจิกพิราบที่ทำเนียบ
“บิ๊กตู่” ฉุนจัดตอกหน้า “ต่อตระกูล ยมนาค” อย่าทำให้มีปัญหาวุ่นวาย หลังยื่นโนติสปลด “พี่ใหญ่” พ้น “คตช.” เพราะเรื่องนาฬิกาหรู ระบุมีกลไกกฎหมายตรวจสอบอยู่แล้ว ขณะที่คสช.ชี้อดีตสส.เพื่อไทยบินไปพบแม้ว-ปู เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญที่ห้าบุคคลภายนอกชี้นำ โทษถึงขั้นยุบพรรค พร้อมสั่งเช็คพาสปอร์ต ละเอียดยิบ ด้าน “บิ๊กป้อม” ปรามพวกเคลื่อนไหวต้องยึดกม.แย้มอาจมากกว่า 3 กลุ่ม ไม่ห่วงชุมนุมครบ 4 ปี รัฐประหาร โวประชาชนกินดีอยู่ดี
ที่ทำเนียบรัฐบาล บ่ายวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ตำหนิ นายต่อตระกูล ยมนาค ประธานอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติด้านการป้องกันการทุจริต ในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ทำหนังสือถึงประธาน คตช. แสดงความกังวลต่อบทบาทของคตช. ในสถานการณ์วิกฤติปัจจุบัน กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ถูกตรวจสอบเรื่องนาฬิกาหรู
“ เป็นเรื่องของ คตช.ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว เป็นเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ ไม่อยากให้มาพูดจนวุ่นวายไปหมด ทำเรื่องการทุจริต แต่ก็อย่าทำให้มันวุ่นวาย ให้มันมีปัญหา ให้มันสับสนอลหม่านไปหมด ให้กลไกในการตรวจสอบทำไป และถ้าตรวจสอบมาแล้ว มีการทำความผิดจริง ก็เข้าไปสู่กระบวนการของศาลยุติธรรม ศาลตัดสินออกมา ก็เป็นเรื่องของศาล ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯย้ำทุจริตต้องมีหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงกรณีที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยสำรวจดัชนีสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่น พบว่าปี 2560 มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะสูงสุดในรอบ 3 ปี และสถานการณ์คอร์รัปชั่นในปี 2561 นี้จะรุนแรงมากขึ้นว่า เรื่องนี้ตนเช็คแล้ว ได้เรียกทางมหาวิทยาลัยหอการค้ามาพบ ซึ่งได้รับแจ้งว่าเป็นการชี้แจงทางหลักวิชาการเฉยๆ ซึ่งไม่ได้มีหลักฐานชัดเจน เพียงแต่ว่าเป็นการประมาณการณ์ ประเมินสถานการณ์
“ถ้าเราจะจับให้ได้จริง ๆ ว่าทุจริตจริง ๆ เท่าไหร่ มันต้องไปหาคนให้หลักฐานมา แต่ถ้ากลัวกันหมด กลัวว่าวันหน้าจะไม่ได้ทำโครงการของรัฐ เพราะเป็นคนมาเปิดเผยข้อมูล แล้วเราจะสะอาดบริสุทธิ์กันได้เมื่อไหร่ แบบนี้ก็แก้ไม่ได้หรอก รัฐบาลก็แก้ไม่ได้ ต่อให้ 10 รัฐบาลก็แก้ไม่ได้ นายกฯ 100 นายกฯประยุทธ์ ก็แก้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องร่วมมือกัน ข้อมูลต้องชัดเจน ซึ่งการนำเสนอลักษณะแบบนี้บางทีมันอาจจะมีผลเสียกับประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศจะมองว่าเรามีทุจริตมากขึ้น ก็จะมีผลต่อการลงทุนหรือไม่ ความจริงวันนี้เขาพร้อมลงทุนในประเทศเรา แต่พอข่าวแบบนี้ออกไปก็จะเสียหายได้แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะให้ปกปิดข้อเท็จจริง ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ถ้าใครทุจริต ผมไม่ละเว้นแน่ ด้วยขั้นตอนตามกฎหมาย ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะลงโทษใครก็ได้ ผมไม่เคยลงโทษแบบนั้น” นายกฯ กล่าว
และว่าเรื่องนี้มีอาจารย์ที่ทำโพลล์แห่งหนึ่งมาอธิบายผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทยแล้ว ลองไปดูกัน ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะทำโครงการอะไรขึ้นมาแล้วจะต้องมีการทุจริตเท่านั้น เท่านี้ มันไม่ใช่บัญญัติตรายางนะ ไปคิดใหม่ ต้องดูว่าใครผิด ตรงไหน ก็ลงโทษตรงนั้น
ลือลางร้าย’อีกา’จิกนกพิราบตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแล้ว ได้เดินขึ้นไปยังห้องทำงาน บนตึกไทยคู่ฟ้า ประมาณ 15นาที เกิดเหตุไม่คาดฝันตอกย้ำลางร้ายรัฐบาล เมื่ออีกา 2ตัวพากันรุมจิกตีนกพิราบตัวหนึ่งบริเวณทางลาดหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จนนกพิราบตาย พร้อมกับรุมจิกกินซากศพนกพิราบ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเดินมาไล่อีกาและเก็บซากนกพิราบไปทิ้ง อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ว่า นกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของความดีกำลังถูกอีกาที่เป็นสัญลักษณ์ของสิ่งไม่ดีรุมทึ้งทำร้าย หรืออีกนัยหนึ่งนกพิราบเป็นสัญลักษณ์สื่อมวลชนและยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพอีกด้วย กำลังถูกฝ่ายไม่ดีรุมโจมตี เป็นต้น
เตือนอาจารย์อย่ายุนักศึกษาก่อม็อบ
ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้าพล.อ.ประยุทธ์ ได้พบกับ คณะผู้บริหารกรมการศาสนา(ศน.) และองค์กรเครือข่ายทางพระพุทธศาสนาและนักเรียนเยาวชน เข้าพบเพื่อรณรงค์เชิญชวนประชาสัมพันธ์จัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2561
โดยนายกฯกล่าวช่วงหนึ่ง กศาสนาพุทธเป็นสังคมแห่งความปรองดอง ไม่ได้สอนให้ทะเลาะขัดแย้งกัน อดทนหน่อย บ้านเมืองมีปัญหาพอสมควรแล้ว อย่าให้มีอีก พร้อมเตือนอาจารย์หยุดหนุนหลังนักศึกษาเคลื่อนไหว
‘คสช.’งัดกม.ขู่ยุบพรรคเพื่อไทย
แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยว่า รัฐบาล และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังจับตาการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร และ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะให้ฝ่ายกฎหมายของ คสช. ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับแกนนำ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบที่ประเทศจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง และ สิงคโปร์ เพราะอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้ามาชี้นำ หรือ ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมือง หากมีความผิดอาจถึงขั้นยุบพรรค
แหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคง ระบุอีกว่า นอกจากนี้ ยังให้ติดตามรายละเอียดว่าสองอดีตนายกรัฐมนตรีใช้หนังสือเดินทางประเภทอะไร หรือ มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในการอำนวยความสะดวก ในการเดินทางเข้าออกยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงกรณีการจ้างล็อบบี้ยีสต์ในการติดต่อประสานงานการเข้าออก เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ปรากฏมีจังหวะ และขั้นตอน ที่สอดคล้องกัน คงจะมีการวางแผนด้วยการเลือกหาจังหวะเวลาที่ได้รับความสนใจเพื่อหวังดิสเครดิตรัฐบาล และ คสช.
ชี้ปล่อยไว้ไม่ได้อาจบานปลาย
“ยังไม่แน่ชัดว่า นายทักษิณ และ นส.ยิ่งลักษณ์ จ้างล็อบบี้ยีสต์ในการติดต่อประสานงานการเคลื่อนไหวหรือไม่ ทั้งนี้รัฐบาล และ คสช.ไม่มีแนวคิดที่จะจ้างล็อบบี้ยีสต์เพื่อตอบโต้ เพียงแต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินไปตามกฎหมาย และต้องทำงานอย่างหนักในการชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงมากขึ้น เพราะประเทศไทยชัดเจนทุกอย่าง ซึ่งเรื่องนี้คงปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องดำเนินการ ไมาเช่นนั้นเหตุการณ์บานปลาย” แหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคง กล่าว
และว่า นายกฯหัวหน้าคสช. ได้สั่งการชัดเจนแล้วว่า ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ใครจะไปบิดเบือนข้อมูลอย่างไร รัฐบาล และ คสช. จะต้องชี้แจงให้ชัดเจน ซึ่งอาจจะต้องชี้แจงในเชิงรุกมากกว่าการตั้งรับ โดยเฉพาะอยู่กับข้อเท็จจริง รัฐบาลไม่หนักใจเท่าไหร่ เพียงแต่ทำงานให้หนักมากขึ้น และมีมาตรการสร้างความเข้าใจมากขึ้น
‘บิ๊กป้อม’พบป่วนมากกว่า3กลุ่ม
วันเดียวกันพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ประกาศจะยกระดับการเคลื่อนไหว รวมถึงจะกระจายไปยังจังหวัดต่างๆว่า ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย กฎหมายว่าอย่างไรเราต้องยึดตามนั้น ฝ่ายความมั่นคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการอะไร เราจะดูแลเหมือนที่ผ่านมา
เมื่อถามถึงกรณีสั่งการให้จับตาการเคลื่อนไหวของ3กลุ่ม ได้แก่สองพี่น้องอดีตนายกฯ อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง รวมถึงตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยง มีข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
เมื่อถามย้ำว่าเหตุที่ต้องจับตาถึง3กลุ่มนั้น มีการข่าวอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มี และอาจจะมากกว่า3กลุ่มก็ได้ เมื่อถามว่าวันที่ 22 พ.ค.นี้ ที่จะครบ4ปีรัฐประหาร คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีความวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ คนไทยรู้อยู่แล้ว เราทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความสงบ ที่ไม่สงบก็เพราะสื่อถามไม่ให้สงบ ตอนนี้ไม่มีอะไร ทุกอย่างสงบดี ประชาชนอยู่ดีกินดี ไม่มีอะไร
เมิน’แอมเนสตี้’เริ่มเคลื่อนไหว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สำนักเลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน เชิญชวนสมาชิกและนักกิจกรรมกว่า 7 ล้านคนทั่วโลก ส่งจดหมายเรียกร้องรัฐบาลไทยให้ยุติดำเนินคดีอาญาต่อกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมกิจกรรมทางการเมืองเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การดำเนินการเรื่องนี้อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย ต่างประเทศไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเราทำตามกฎหมายของเรา เมื่อกำหนดกฎหมายขึ้นมา เราก็ต้องใช้กฎหมายดังกล่าว ส่วนเหตุใดเขาถึงต้องออกมาดำเนินการเรื่องดังกล่าวในช่วงนี้ คงต้องไปถามแอมเนสตี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี