"เรืองไกร"จวกเละ กฎขึ้นเครื่องต้องแจ้งทรัพย์สิน ไล่กรมศุลฯตรวจนาฬิกา"บิ๊กป้อม"-ขรก.ผู้ใหญ่ ทำได้ค่อยมาว่ากัน
7 มี.ค.61 จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์ประกาศกรมศุลกากร คือ "ประกาศที่ 60/2561 เรื่อง การปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมกับตนทางอากาศยาน" ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 โดยในข้อ 4 ของประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ผู้โดยสารที่จะนำของมีค่า เช่น นาฬิกา กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์พกพา (โน้ตบุ๊ค) ติดตัวไปต่างประเทศในลักษณะของใช้ส่วนตัว ในวันเดินทางให้นำสิ่งของนั้นพร้อมภาพถ่าย 2 ชุด แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ ที่ทำการศุลกากรบริเวณช่องทางขาออก ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกใบรับแจ้งของมีค่าให้ เพื่อที่เมื่อผู้โดยสารนั้นเดินทางเข้ามายังประเทศไทย สิ่งของที่ได้แจ้งไว้นั้นจะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียอากรนำสินค้าเข้าประเทศ
ล่าสุด นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ว่า เมื่อประชาชนทราบเรื่องนี้ ต่างก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการออกกฎหมายใดก็ตาม จะต้องคำนึงถึงความสะดวกสบาย และผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่มาทำให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ลำบาก สำหรับประกาศดังกล่าวของกรมศุลกากร เป็นข้อบังคับที่ขัดกับความรู้สึกของประชาชน
"ผมจึงอยากถามว่า หากจะใช้ประกาศดังกล่าวกับประชาชนจริง ทางกรมศุลกากรกล้าที่จะทำสิ่งเหล่านี้หรือไม่ อย่างเช่น ในส่วนของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คณะรัฐมนตรี เคยตรวจสอบนาฬิกาข้อมือเวลาเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ แล้วนายกรัฐมนตรี ต้องสำแดงด้วยหรือไม่ ซึ่งถ้ากรมศุลกากรทำอย่างที่ออกประกาศได้จริงเท่าเทียมกันทุกๆ คน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่เชื่อว่าคงตรวจสอบไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้น การออกประกาศแบบนี้ ถามว่าเป็นเพราะว่างงาน ไม่มีอะไรจะทำใช่หรือไม่ เรื่องนี้ไม่เข้าท่าอย่างมาก" นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวต่อไปว่า คนที่จะขึ้นเครื่องบินเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่ก็ใส่นาฬิกาข้อมือ หากจะตรวจทั้งหมดก็คงเป็นเรื่องยุ่งยากมาก และไม่คิดว่าจะเป็นการแก้ปัญหาลักลอบนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อหลบเลี่ยงภาษีได้ตรงจุด สิ่งที่กรมศุลกากรควรทำในตอนนี้คือ ตรวจสอบที่มาที่ไปของนาฬิกาหรู 25 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยมาตรวจสอบนาฬิกาของประชาชน ซึ่งตนได้เคยยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเร่งรัดให้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ทำการยึดหรืออายัดนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม แต่ถึงวันนี้เรื่องก็ยังเงียบ ดังนั้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ทำการยกเลิกประกาศดังกล่าว
นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า ระหว่างที่ให้สัมภาษณ์อยู่นี้ ตนอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยเดินทางออกจากประเทศไทยตั้งแต่วันอังคารที่ 6 มี.ค.และในวันศุกร์ที่ 9 มี.ค.เวลา 15.35 น.จะขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งตนไม่ได้ใส่นาฬิกาข้อมือ แต่ก็ได้นำเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คติดตัวมาด้วย หากขากลับเจ้าหน้าที่ศุลกากรจะตรวจสอบและดำเนินการอย่างไรตนก็พร้อมที่จะรับทุกสถานการณ์ ซึ่งหากมีการยึดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของตน ก็พร้อมต่อสู้ทางกฎหมายเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทางกรมศุลกากรได้มีประกาศ 2 ฉบับ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการ เงื่อนไขการปฏิบัติการศุลกากรในการตรวจปล่อยผู้โดยสารและหีบห่อสัมภาระระหว่างสนามบินในประเทศ โดยวิธีการ Check Throuth และประกาศเรื่อง การปฏิบัติพิธีศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาในประเทศหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พร้อมกับตนเองทางอาศยาน โดยประกาศดังกล่าวเป็นเรื่องเดิมที่เคยมีตามประกาศเดิมอยู่แล้ว แต่กรมศุลกากร ได้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่ม จึงจำเป็นต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบ เพื่อให้มีความชัดเจน
พร้อมกันนี้ นายกุลิศ ยังได้แนะนำว่าการนำของมีค่า เช่น กล้อง โน้ตบุ๊ก นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ออกนอกประเทศควรต้องสำแดงสินค้าดังกล่าวกับกรมศุลกากร เพื่อยืนยันไว้เป็นหลักฐานว่าได้นำออกจากประเทศจริง หากเกิดการเรียกสุ่มตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ในการเดินทางเข้าราชอาณาจักรจะได้มีหลักฐานอ้างอิงสินค้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าประชาชนทุกรายจะยื่นสำแดงสินค้าหรือไม่ยื่นก็ได้ เพราะไม่ได้มีความผิด แต่เป็นเพียงการแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของสินค้าเท่านั้น เมื่อโดนสุ่มตรวจระหว่างขาเข้าประเทศจะได้มีเอกสารแสดงต่อเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) เวลา 13.00 น.กรมศุลกากรจะแถลงข่าวเกี่ยวกับประกาศคุมเข้มสิ่งของพกพาติดตัวนำขึ้นเครื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไปเมืองนอกต้องรู้! กรมศุลเตือนพก'นาฬิกา-กล้อง-โน้ตบุ๊ค'ไม่แจ้งขากลับเจอภาษี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี