ตามรัฐธรรมนูญ 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพสามารถยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ 2 กรณีคือ
1) ยื่นขอให้วินิจฉัยว่าการกระทำขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา 7(11) ประกอบมาตรา 46 ของ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญว่าบุคคลนั้นต้องไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน
2) ยื่นขอให้วินิจฉัยว่าการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพเป็นผลจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 48 ของ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญเช่นเดียวกันว่าบุคคลนั้นต้องไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน
กรณีหลังนี้เป็นเรื่องคดีอื่นที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา 7(13) ของ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการร้องขอเกี่ยวกับการกระทำตามมาตรา 7(11) ประกอบมาตรา 46 และไม่ใช่เรื่องต่อเนื่องจากมาตรา 46 เพราะทั้งมาตรา 46 และมาตรา 48 มีความสมบูรณ์อยู่ในตัว โดยระบุขั้นตอนการร้องขอไว้ทั้งสองมาตรา และเพื่อไม่ให้ต้องเขียนข้อความซ้ำๆ กันทั้งสองมาตรา กฎหมายจึงบัญญัติให้นำข้อความในอีกมาตราหนึ่งมาใช้บังคับด้วย
การที่มาตรา 48 ขึ้นต้นว่า ภายใต้บังคับมาตรา 47 มีความหมายเพียงว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณาก็ต่อเมื่อมิใช่กรณีใดกรณีหนึ่งใน 6 กรณี เช่น มิใช่การกระทำของรัฐบาล
ทั้งกรณีตามมาตรา 46 และมาตรา 48 ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจไม่รับคำร้องไว้พิจารณาได้ด้วยเหตุผล 2 ข้อ คือ
(1) คำร้องไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย หรือ
(2) กรณีต้องห้ามตามมาตรา 47 ซึ่งมี 6 กรณีดังกล่าวข้างต้น
การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับคำร้องที่บุคคลผู้ถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ และการละเมิดนั้นเป็นผลจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี