21 ก.ย.61 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์" ให้หัวข้อ "แค่เริ่ม ก็เห็นปลายทาง" ว่า
วันนี้ผมจะพูดในหัวข้อ แค่เริ่มต้นก็เห็นปลายทาง ครบรอบ 12 ปี 19 กันยายน 2549 จะเห็นปรากฎการณ์อย่างชัดเจนที่สุดว่าประเทศนี้ไม่มีใครยอมใครแม้แต่ฝ่ายเดียว อย่างที่ผมได้พูดกันมาโดยตลอดว่า ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งยื่นมือให้จับ อีกฝ่ายหนึ่งยื่นเท้าเข้ามาให้จับนั้น บ้านเมืองมันเดินไปข้างหน้าไม่ได้
ปรากฏการณ์ครบรอบ 19 กันยายน ปี 2549 นั้น ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่าสังคมไทยนี้สามารถขัดแย้งได้ตลอดระยะเวลา แต่ละฝ่ายไม่มีใครพร้อมจะยินยอมด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นหนทางของเราข้างหน้านั่นก็คือจะนำพาประเทศให้ข้ามพ้นวิกฤตที่รออยู่ข้างหน้าอย่างไรนั้น
ที่ผมพยายามใช้ความอดทนในการนำเสนอกันมา ว่าทุกฝ่ายจะต้องพูดคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นซีกพรรคการเมือง ซีกผู้มีอำนาจ และซีกของประชาชน และตกลงเป็นสัญญาประชาคม ประกาศต่อพี่น้องประชาชนว่าต่อไปนี้คนไทยทั้งชาติ เราจะต้องปฏิบัติตามสัญญาประชาคมที่ได้ตกลงกันไว้ เพราะมิฉะนั้น ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง การเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้ง ที่ผมพยายามอธิบายกันมาโดยตลอดว่าวิกฤตมันรออยู่ข้างหน้า
เพราะฉะนั้นความขัดแย้งตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่ผ่านมานั้น มันยังดำรงอยู่ เพียงแต่ว่าใครจะหยิบยกเรื่องอะไรมาอธิบาย ผมไม่ต้องการให้สังคมนี้มีความเห็นทางการเมืองเป็นทิศทางเดียวกัน ความแตกต่างในทางการเมืองยังจะต้องดำรงอยู่ เรามีความเหมือนในเรื่องของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ในเรื่องทางการเมือง จะต้องเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ประชาชนต้องเห็นความแตกต่างของพรรคการเมืองก่อนที่เขาจะตัดสินใจ เพียงแต่ท่วงทำนองระหว่างกันนั้นเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าถ้าเราไม่มีกฎกติกาที่ตกลงร่วมกันภายใต้รัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหานี้นั้น บ้านเมืองไม่สามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้เลย เพราะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีใครพร้อมจะฟังกัน ทุกคนต่างผ่านความเจ็บปวดกันมา
ดังนั้น ผมเองก็เห็นว่าข้อเสนอที่ผมยังดำรงอยู่กันนั้น ว่าการพูดคุยกันมันคือทางออก ดูเสมือนหนึ่งว่าเป็นการพูดซ้ำ พูดมาพูดไป แต่ข้อเท็จจริงก็เห็นกันอยู่แล้วว่าสังคมนี้ยังไม่พร้อมที่จะข้ามพ้นความขัดแย้งกันได้เลย
เพราฉะนั้นนะครับ เมื่อเงื่อนไขว่าการเลือกตั้งต้องผูกติดกับความไม่สงบและความสงบ ไม่สงบก็ไม่มีเลือกตั้ง สงบจึงจะมีการเลือกตั้ง ถ้าขัดแย้งไม่มีการเลือกตั้ง ไม่ขัดแย้งมีการเลือกตั้ง สาระสำคัญยังจะต้องอยู่ที่ข้อตกลงร่วมกัน และผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นกรรมการ
วันนี้นะครับที่จะต้องพูดย้ำกันไปนั้น เพราะเราเองก็แลเห็นว่าถ้ากรรมการไม่เป็นกลางภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีใครฟังใครกันนั้น ประเทศจะเข้าสู่สถานการณ์ที่หนักยิ่งกว่าเดิม เพราะฉะนั้นข้อตกลงร่วมกัน กติกาใดๆก็ตามที่จะเป็นสัญญาประชาคม เพราะเดินตามรัฐธรรมนูญจะเกิดวิกฤต เพราะฉะนั้นนะครับต้องคุยกัน และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เราจึงจะแหวกวิกฤตจากสถานการณ์นี้กันได้ ภายใต้ที่ความขัดแย้งยังดำรงกันอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการแสดงความคิดเห็น
ความจริงแล้วนะครับ ความแตกต่างในระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่สวยงาม บังเอิญว่าความแตกต่างในสังคมบ้านเรานั้น เรายังไม่มีจิตใจที่จะยอมรับความแตกต่างอันนี้กันได้ ผมเองเห็นว่าสังคมจะต้องอยู่ได้ท่ามกลางความแตกต่าง เราแตกต่างกันทางความคิด ความคิดเห็น แล้วบ้านเมืองก็มีความสงบ เพราะผมเชื่อว่าวันนี้คนไทยต้องการเลือกตั้ง และต้องการความสงบ
เพราะฉะนั้นนะครับบรรยากาศในช่วง 2 วันที่ผ่านกันมานั้น ผมยังเชิญชวนสังคมนี้ว่าเราต้องเดินเข้าสู่การเลือกตั้งให้ได้ ภายใต้ว่าเราเลือกตั้งก็ต้องสงบแต่เราต้องอยู่กับความแตกต่างอันนี้กันให้ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี