เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่ลอนดอนสร้างความสะเทือนขวัญให้คนในลอนดอนและคนในโลกอย่างมาก และเป็นบทเรียนราคาแพงในเรื่องความปลอดภัยของตึกสูงในกรุงเทพฯ
ผมเฝ้าดูเหตุการณ์ดังกล่าวจาก CNN และ BBC ตลอดเวลาด้วยความเศร้า เพราะถึงแม้ประเทศอังกฤษมีระบบการป้องกันไฟอย่างดี ประชาชนก็ตื่นตัวรู้เรื่องความปลอดภัยมากกว่าประเทศไทยหลายเท่า แต่เหตุการณ์เหล่านี้ยังเกิดขึ้นได้ ปัญหาคือผู้เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยของตึกสูงในประเทศไทยจะนำเป็นบทเรียนราคาแพงหรือไม่
ปัจจุบันความปลอดภัยของคนไทยไม่ว่าเรื่องอุบัติเหตุทางท้องถนนซึ่งติดอันดับ 2 ของโลก เรื่องไฟไหม้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องระวัง ยิ่งในยุคหลังคนไทยอยู่ตึกสูงกันมากขึ้นจึงอยากเรียนผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายว่าเราควรสามารถสร้างวัฒนธรรมของการรักษาความปลอดภัยให้คนไทยทุกๆ คนตระหนักว่าต้องช่วยกันดูแลความปลอดภัย เมื่อมีวัฒนธรรมความปลอดภัยอยู่ในใจของคนไทยทุกคน เรียกว่า Safety Culture ปลูกฝังเรื่อง Safety Mindsetคือการมีสติ มุ่งมั่น ระวังเพื่อความปลอดภัยในการดำรงชีวิตซึ่งถ้าไม่ทำผมเป็นห่วงจริงๆ ว่า ถ้าเกิดไฟไหม้ตึกสูงของกรุงเทพฯ เราจะมีศักยภาพพอในการจัดการกับปัญหาหรือไม่ หรือเราจะมีศักยภาพพอในการป้องการปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นหรือไม่
ต่อจากสัปดาห์ที่แล้วได้พูดไปแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงมี 3 เรื่อง FUU คือเร็ว ไม่แน่นอนและคาดไม่ถึง วิธีการปรับตัวก็คือจะต้องเป็นคนใฝ่รู้ คาดคะเนข้างหน้าว่าโลกไม่เหมือนเดิมแล้ว พร้อมจะจัดการกับการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน
ส่วนเรื่อง VUCA เรื่องแรกคือ Volatility หรือความผันผวนน่าจะหมายถึงเศรษฐศาสตร์ที่ผู้บริหารเศรษฐกิจเช่นที่ธนาคารชาติต้องจัดการกับการพัฒนาด้านอัตราแลกเปลี่ยนการไหลเข้าของเงิน หรือความเข้าใจเรื่องกองทุนต่าง ๆ ที่อยู่ในมือของภาคเอกชนซึ่งผู้นำที่ดีต้องปรับตัวให้เข้าใจถึงความผันผวนดังกล่าวตลอดเวลา การเรียนเก่งทางทฤษฎีอย่างเดียวจึงไม่พอ ต้องมีความเข้าใจถึงบทบาท ในภาคเอกชน และสำคัญที่สุดทำความเข้าใจเรื่องการใช้เทคโนโลยีแบบ Digital ที่ทันสมัยจะกระทบความผันผวนดังกล่าวมากขึ้น
เรื่องของความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจเช่นGDP ของเศรษฐกิจจีนว่าจะขยายตัวในอัตราเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจของไทยผูกพันไว้กับเศรษฐกิจจีนค่อนข้างมาก หรือความไม่แน่นอนของระบบการค้าเสรี ปัจจุบัน มี Trump ก็ทำให้การค้าเสรีอาจจะมีอุปสรรคมากขึ้น
Complexity ความสลับซับซ้อนของเศรษฐกิจ เช่นการเงินสลับซับซ้อนมากขึ้น เช่นบทบาทของธนาคาร กับผู้บริโภครุ่นใหม่ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้นักการเงินรู้การเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้เรื่องดิจิตอลด้วย และต้องรู้ว่าผู้บริโภคแต่ละกลุ่มมีความต้องการอะไร เช่นความต้องการระหว่างรุ่นหนุ่มสาว กับผู้สูงอายุ ยิ่งโลกสลับซับซ้อนมาก ทำให้เราบริหารยาก แต่วิธีการคือสิ่งที่ยุ่งยากทำให้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพระราชทานไว้คือ เปลี่ยนจากความสลับซับซ้อนมาเป็นเรื่องที่เรียบง่าย หรือจาก Complexity เป็น Simplicity
สุดท้ายเรื่องAmbiguity หรือความคลุมเครือ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเรื่องการลงทุนของภาคเอกชนในไทย ซึ่งปัจจุบันเมื่อประเทศมีความสงบแล้วปราศจากความขัดแย้ง การลงทุนภาคเอกชนก้าวสูงขึ้น แต่กลับปรากฏการลงทุนน้อยลง อาจเพราะเหตุผลว่าการเป็นรัฐบาลจากการปฏิวัติทำให้ต่างประเทศอาจจะมองว่าไทยเราไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มที่ ภาคเอกชนจึงลังเลซึ่งทำให้เกิดสภาพความคลุมเครืออย่างที่เป็นอยู่
สุดท้ายผมขอแสดงความยินดีกับคุณเม-เอรียา จุฑานุกาล ได้อันดับ 1 ของโลกในกอล์ฟอาชีพหญิงแล้ว
ผมเคยพูดเสมอว่าอยากให้เห็นสำคัญในการรักษาตำแหน่งนานๆ ซึ่งคราวที่แล้วได้เตือน เมย์-รัชนกไปแล้วในการขึ้นสู่แบดมินตันหญิงของโลกได้ไม่ถึง 3 เดือน ก็รักษาตำแหน่งไว้ไม่ได้ จึงควรใช้ศาสตร์พระราชาที่สอนไว้ว่า ทุนที่สำคัญที่สุดคือทุนแห่งความยั่งยืน ควรต้องรักษาตำแหน่งไว้ให้นานที่สุดมากกว่าแค่เป็นแชมป์ แต่รักษาไว้ไม่ได้
สุดท้ายนี้ขอแสดงความยินดีกับลูกศิษย์ EADP รุ่นที่ 13 หลักสูตร พัฒนาสมรรถนะผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT Assistant Director Development Program : EADP 2017)และขอต้อนรับลูกศิษย์ PSU 3 โครงการพัฒนาผู้นำนักบริหารเพื่ออนาคตของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (รุ่นที่ 3) จะจัดขึ้นในวันที15 มิถุนายน - 9 กันยายน 2560 ซึ่งเริ่มการเรียนภาวะผู้นำของผมเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี