หลายคนในเมืองไทยยังคิดว่าการมีตำแหน่งคือผู้นำ คือ คนมีตำแหน่ง เช่น เป็นรัฐมนตรีหรือนายก ก็คือ ผู้นำหรือในเมืองไทยเรียกว่า เจ้านาย หรือ ผู้บังคับบัญชา
ในบทความนี้อาจไม่ใช่เช่นนั้น ผู้นำคือ ผู้ที่สร้างศรัทธา (Trust) ให้มีคนเห็นคุณค่า โดยการทำคุณประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมมากกว่า ผู้นำที่มีตำแหน่งด้วยซ้ำไป
ประธานาธิบดี Trump ที่ภูมิใจมากๆในการชนะเลือกตั้งโดยคาดไม่ถึง มีตำแหน่งใหญ่ คือ เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ คิดว่านี่แหละคือ ผู้นำจะทำอะไรก็ได้ซึ่งอาจจะผิดเพราะสร้างความเสียหายขาดความศรัทธา Trust จากคนในโลก แต่ Trump ก็คิดว่าตำแหน่งนี่แหละคืออำนาจที่ได้รับ มีกฎหมายรองรับฉันคือ ผู้นำที่ผิดเพราะปัจจุบันคนที่ไม่ได้ตำแหน่งไม่มีกฎหมายรองรับ ไม่มีอำนาจ อาจจะเป็นผู้นำที่ดีได้เพราะเขาเหล่านั้นได้รับศรัทธาจากผู้คนมากมายเช่น Al gore ในเรื่องภาวะโลกร้อน
สังคมไทยต้องแยกให้ออกเรื่องผู้นำตามตำแหน่ง ตามกฎหมาย คือผู้นำที่ได้รับความศรัทธา (Trust)
สังคมไทยก็เช่นกัน ผู้มีตำแหน่ง เช่น ปลัดกระทรวง อธิบดี หรือรัฐมนตรีก็จะได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคล มีเกียรติมีคุณค่าและคิดว่าเขาเหล่านั้นคือ ผู้นำ ทั้งๆที่ บุคคลนั้นอาจจะเป็นผู้นำที่สร้างปัญหาให้ประเทศมากกว่าสร้างคุณประโยชน์ให้ประเทศ เช่น นักการเมืองที่ได้รับเพราะเลือกตั้ง แต่สร้างปัญหาให้คนรุ่นหลังต้องแก้ เช่น กรณีจำนำข้าว เงินของชาติหายไป 5 แสนล้าน จากการกระทำที่ไม่สุจริต เป็นต้น
ศรัทธาต้องใช้เวลาสร้างให้ผู้อื่นไว้ใจและเชื่อถือได้ว่าจะทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมถึงแม้ไม่มีตำแหน่งมารองรับ ในทางวิชาการ ศรัทธา แบ่งเป็น 4 ระดับ
n ศรัทธาตัวเอง Self-Trust
n ศรัทธาต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น Relationship Trust
n ศรัทธาในองค์กรที่ทำอยู่ Organization Trust
n และ ศรัทธาในสังคม Social Trust
ศรัทธาต้องสร้างอย่างสม่ำเสมอคือ คิดดีทำดีต่อส่วนรวมและมีความกล้าหาญที่จะแสดงออกเพื่อให้คนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์
ในสังคมที่ดีก็ต้องเปิดโอกาสให้คนไทยที่ไม่มีตำแหน่งรองรับได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศด้วยไม่ใช่เฉพาะบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งเท่านั้น
จะยกตัวอย่างมาเปรียบเทียบคือ ในอเมริกา เรื่องภาวะโลกร้อน
Trump มองว่าภาวะโลกร้อน ทำให้ธุรกิจมีต้นทุนสูงกระทบการจ้างงาน เช่น คนงาน ในเหมืองถ่านหิน ตกงานจริง คือเอาใจฐานเสียง ไม่อยากให้คนตกงานในรัฐใหญ่ที่เขาชนะเลือกตั้งเช่น รัฐ ohio, Michigan, Pennsylvania, Wisconsin, Indianaและ West Virginia เป็นการมองระยะสั้น ไม่คิดว่าปัญหาโลกร้อนคือปัญหาของโลก ถ้าอเมริกาไม่สนใจเรื่องนี้อาจจะสร้างความหายนะระยะยาวได้ จึงยกเลิกข้อตกลงที่ปารีสเรื่องจะลดโลกร้อนร่วมกัน
ส่วน Al gore ตั้งแต่แพ้ Bush อย่างเฉียดฉิว เป็นประชาชนเต็มขั้นแต่สมใจเรื่องภาวะโลกร้อนศึกษาอย่างละเอียด มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ช่วงแรกมีหนังออกมาชื่อว่า Inconvenience Truth เป็นที่สนใจฮือฮามาก ทำให้คนอเมริกันเข้าใจปัญหาโลกร้อนจนเขาได้รางวัล Nobel และทำให้เกิดการรวมตัวของประชากรในโลกว่าจะต้องร่วมกันแก้เพราะภายใน 30 ปีข้างหน้า ถ้าไม่ลดคาร์บอนไดออกไซด์ โลกก็อยู่ไม่ได้
ผมชอบ Al gore ที่พูดว่าปัญญาต่าง บางทีใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลทางลบ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะเร็ว เขายกตัวอย่างน้ำแข็งในขั้วโลกที่ละลาย ในช่วงแรกๆ จะช้า แต่ปัจจุบันเร็วมาก ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นประเทศบางประเทศจะจมลงไปทะเลจริงๆ เช่น บังกลาเทศ เป็นต้น
ส่วน Trump อาจจะเข้าใจ เรื่องโลกร้อน แต่หลักใหญ่คือเอาใจกลุ่มฐานเสียง ก็เลยแกล้งทำเป็นไม่เชื่อว่ามีภาวะโลกร้อน ซึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลจาก Steve Bannon ที่มองการเมืองขวาจัด ผิวขาวตกงานเป็นหลัก เพื่อกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดมากเพราะประเทศในโลก นอกจากอเมริกากับอีก 2 ประเทศเท่านั้น ไม่เอาด้วยกับข้อตกลงปารีส
บทเรียนคือ คนไทยและผู้อ่านต้องยกย่องให้ผู้นำที่ไม่มีตำแหน่ง แต่ทำเพื่อส่วนรวมอย่าง Al gore ในสหรัฐฯ เพราะ gore
สร้างศรัทธาให้เห็นคุณค่าของความเป็นผู้นำโดยไม่มีตำแหน่ง
ปัญหาคือสื่อหลักในประเทศของเรามักมองบุคคลที่มีตำแหน่งว่าจะต้องแก้ปัญหาและนำประเทศให้รอด ในข้อเท็จจริงยกตัวอย่างtrump ในอเมริกาอาจจะพาประเทศและโลกไปสู่ความหายนะก็ได้
ผมหวังว่าคงจะมีผู้นำแบบ Trump ในประเทศไทยน้อยแต่มีผู้นำที่ได้รับความศรัทธามีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่าง gore มากขึ้น
จึงเสนอแนวคิดดังกล่าวเพื่อคนไทยจะได้ศึกษาผู้นำคนไทยที่อยู่ในจุดต่างๆ ที่เรามองไม่เห็น เช่น พระบางรูป ผู้นำระดับชุมชน นักวิชาการบางคน แต่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศของเราอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนอย่าง Al gore ในสหรัฐฯ เป็นแบบอย่างที่ดี เพราะเขาเหล่านั้นสร้างศรัทธาให้คนยอมรับได้
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี