ชาวโลกตกใจกับพฤติกรรมของ Trump ที่ไม่เห็นความสำคัญกับปัญหาโลกร้อน เห็นว่าเป็นเรื่องที่เหลวไหลไม่เชื่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ว่าเป็นอุปสรรคต่อการจ้างงาน การทำธุรกิจ ทำให้ผู้คนจำนวนมากออกมารวมพลังกันอย่างเข้มแข็งต่อต้านความคิดดังกล่าวของ Trump รวมทั้งระดับผู้ว่าการรัฐ หรือนายกเทศมนตรีจำนวนมาก จึงผนึกกำลังกันที่จะดำเนินการลดปัญหาภาวะโลกร้อนกันอย่างเต็มที่
รวมทั้ง Al Gore ที่ออกมาต่อต้านประธานาธิบดีของตัวเองอย่างหนัก
ในทวีป Asia ก็เช่นกันในการประชุมนานาชาติที่จัดโดย University of Muhammadiyah Gresik ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนระดับใหญ่มากของ Indonesiaมี Campus อยู่ทั่วประเทศ แต่การประชุมนี้จัดที่ Campusเมือง Surabaya East Java Indonesia ใน “Conferenceon Green Entrepreneurship & Innovation forSustainable Development (ICGEISD 2017) ระหว่างวันที่ 28-29 สิงหาคมนี้
เมื่อปีที่แล้ว ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เดินทางมาเมืองไทยเป็นแขกของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล กรุงเทพฯ ดร.ปรารถนา ศรีสุข ลูกศิษย์ปริญญาเอกของผมได้เชิญให้ผมพูดเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับอินโดนีเซีย
เมื่อผู้บริหารท่านนี้จะจัดการประชุมนานาชาติดังกล่าว จึงให้เกียรติเชิญผมไปเป็น Keynote Speaker เรื่องดังกล่าวในวันที่ 28 สิงหาคมนี้
จึงทำให้ผมคิดถึง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ Green Entrepreneurship อย่างมาก ศาสตร์ของพระองค์จำเป็นมากที่จะไปสู่ Green Entrepreneurship ได้ในการใช้ 3 เงื่อนไข คือ
1. เดินสายกลาง
2. ระบบความคิด
3. บริหารความเสี่ยงโดยเน้นภูมิคุ้มกัน
โดยมีทุนทางจริยธรรมและทุนทางความรู้เป็นหลักซึ่งแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเป็นแนวทางที่ผมจะนำเสนอให้ผู้ฟังที่อินโดนีเซียด้วย
ปัจจุบันการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UN ใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว เพื่อตอบสนอง 17 UNSustainable Goals ด้วย
นอกจากนั้น ผมยังจะเน้นถึงเรื่องความไม่เข้าใจของธุรกิจใหญ่ๆ และระดับ SMEs ต่อ Green Entrepreneurshipเพราะคิดว่าเป็น Cost (ต้นทุน) มากกว่าเป็น Benefit (กำไร)
ค่านิยมของนักธุรกิจในโลกยังเน้นกำไร ความโลภ และวัตถุนิยมโดยไม่ได้มองปัญหาระยะยาว จึงต้องแสดงให้เห็นว่า Green Business เป็นธุรกิจใหม่ที่จะทำรายได้ไม่ว่าจะเป็น Recycle, Garbage, Solar พลังงานทดแทนอื่นๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ยังพบว่าถ้านักธุรกิจเข้าใจจะเห็นว่าธุรกิจกับปัญหาสิ่งแวดล้อมสามารถไปด้วยกันได้ทั้งความยั่งยืน และได้ทั้งความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาวด้วยหากธุรกิจทำลายสิ่งแวดล้อม โลกก็อยู่ไม่ได้ เพราะธรรมชาติถูกทำลายทุกวัน ยกตัวอย่าง ภูเก็ต เกาะสมุย ถ้าไม่มีการดูแลสิ่งแวดล้อมก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
ดังนั้นปรัชญาการทำธุรกิจคือเพื่อกำไร หรือเพื่ออนาคตแห่งความยั่งยืนกันแน่ ดังนั้น ทุนทางจริยธรรมที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเล็งเห็นเป็นเรื่องสำคัญ ผมถือว่าเป็นทุนทางจริยธรรมที่สำคัญมากใน 8K’s 5K’s ของผม และการใช้Digital Capital ในการกระจายข่าวสาร Online ถึงผู้เกี่ยวข้อง เรื่อง Green Entrepreneurship เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
สุดท้ายขอต้อนรับนักศึกษาปริญญาเอกรุ่นที่ 15 โครงการปริญญาเอก วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา หลักสูตรการจัดการนวัตกรรมวิชา การจัดการทุนมนุษย์ และทุนสังคมที่รับรู้ปัญหา ผมดีใจที่มีส่วนช่วยทำให้หลักสูตรปริญญาเอกก่อประโยชน์มาแล้วรวม 15 รุ่น
รุ่นที่ 15 นี้ มีจำนวนกว่า 20 คน ดูจะเข้มแข็ง มีความตั้งใจมีความหลากหลายทางอาชีพและอายุ โดยมีเรา 3 คน คือ ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์ ดร.สมชายภคภาสน์วิวัฒน์ และ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ช่วยกันทำอย่างต่อเนื่อง
ท้ายสุดดีใจที่ได้มีโอการพากลุ่ม TSU “โครงการพัฒนาผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาสายสนับสนุน” จำนวน 51 คน ไปทัศนศึกษาที่ ม.รังสิต ได้พบอธิการบดี ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ที่ยังคงเป็นเสาหลัก คนดีของสังคมไทยต่อไป และขอขอบคุณบริษัทยูนิลีเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และธนาคารกสิกรไทย สำนักงานเมืองทองธานี (แจ้งวัฒนะ) ด้วยในการดูแลการศึกษาดูงานครั้งนี้
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี