แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรงงานยาสูบมีมติเห็นชอบเลื่อนวันประมูลซื้อเครื่องจักรเพื่อเตรียมก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่อ.โรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะเริ่มในเดือนธันวาคม 2557 ออกไปเนื่องจากมีการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ได้ในต้นปีหน้า

สำหรับวงเงินในเบื้องต้นยังคงไว้ที่แผนเดิมคือ 6,000 ล้านบาท แต่เห็นควรให้มีการศึกษาข้อมูลใหม่ โดยจะนำเรื่องการใช้เครื่องจักรจากโรงงานเก่าให้มากที่สุด เพื่อลดต้นทุนและวงเงินที่ใช้ซื้อเครื่องจักรลง

ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อแผนย้ายโรงงานยาสูบเพื่อคืนพื้นที่ให้ทำสวนสาธารณะเบญจกิตติ จากเดิมที่คาดว่าเมื่อโรงงานที่โรจนะแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้คืบหน้ากว่า 80% และประมูลเพื่อคัดเลือกบริษัทที่ผลิตเครื่องจักร ซึ่งต้องใช้เวลาทำเครื่องอีกกว่า 1 ปี คาดว่าจะสามารถย้ายโรงงานยาสูบไปอยู่ที่อยุธยาได้ปลายปี 2558 หรืออย่างช้าไม่เกินไตรมาสแรก 2559

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบเรื่องความร่วมมือกับ เจบีไอ เจแปน ในการรับจ้างผลิตยาเส้นพอง ซึ่งเป็นส่วนผสมในบุหรี่เพื่อลดนิโคตินให้น้อยลง รวมถึงแนวทางการรับซื้อใบยาและการขยายโควตาให้เหมาะสมและเตรียมทำยุทธศาสตร์การผลิตบุหรี่เพื่อส่งออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 2558

แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่ต้องมีการศึกษาใหม่เพราะแนวทางของคณะกรรมการชุดก่อนต้องการซื้อเครื่องจักรจากจีนขณะที่คณะกรรมการชุดใหม่เห็นว่าประเทศที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้คือ เยอรมนี กับอิตาลี ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักส่วนจีนและสหรัฐอเมริกาไม่มีความเชี่ยวชาญหากชนะประมูลก็ต้องซื้อเครื่องจักรหลักจากประเทศผู้ผลิตมาประกอบอยู่ดี

ก่อนหน้านี้การเปิดประมูลเครื่องจักรของโรงงานยาสูบได้ถูกชะลอออกไปเนื่องจากหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ได้มีนโยบายให้ตรวจสอบโครงการลงทุนที่มีขนาดใหญ่กว่า 1,000 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ล่าช้าจากแผนเดิมอย่างไรก็ตามคณะกรรมการชุดใหม่คาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากได้มีการศึกษาการจัดซื้อเครื่องจักรใหม่ให้มีความโปร่งใสมากขึ้นและเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบของคสช.