สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย คาดราคาข้าวมีแนวโน้มราคาสูงขึ้น 8-10% รับออเดอร์ช่วงเทศกาลคริสต์มาส ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปีลดลงจากพิษภัยแล้ง
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้มากที่แนวโน้มราคาข้าวในช่วงปลายปีหรือประมาณ ธ.ค.-ม.ค. 2558 จะปรับราคาสูงขึ้นอีกประมาณ 8-10% เพราะปกติช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่มีกิจกรรมการส่งออกข้าวมากขึ้น จากความต้องการบริโภคของประเทศผู้นำเข้าช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ เช่น ในประเทศไนจีเรียที่บริโภคข้าวนึ่ง จะเริ่มซื้อมากขึ้นในช่วงเดือน พ.ย. อีกทั้งยังคาดว่าผลผลิตข้าวนาปีจะลดต่ำลงจากที่คาดการณ์ ที่มองว่าจะมีผลผลิต 27 -28 ล้านตันข้าวเปลือก น่าจะลดลงไปประมาณ 4 ล้านตันข้าวเปลือก หรือเหลือผลผลิตเพียง 23 ล้านตันข้าวเปลือก เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง จะทำให้ผลผลิตข้าวลดลง ซึ่งผู้ส่งออกข้าว คาดการณ์ว่าราคาข้าวจากนี้ไปน่าจะปรับตัวสูงขึ้น เพราะลูกค้าที่จะมาซื้อข้าวจะมีเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ตอนนี้ราคาข้าวขาว 5% ของไทย อยู่ที่ประมาณ 355-360 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งถือว่าลดลงมาต่ำมาก และน่าจะลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว โดยส่วนหนึ่งการที่ราคาข้าวลงมาต่ำมาก เพราะค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมาถึง 8% จากต้นปี ทำให้ราคาข้าวขาวของไทยลดลงมาจากต้นปีที่ราคาตันละ 400 เหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ล่าสุดจากที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เปิดประมูลซื้อข้าวขาว 25% จำนวน 750,000 ตัน เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา สรุปทางรัฐบาลเวียดนามประมูลไปได้ที่ 450,000 ตัน ที่ราคาCIF 426.6 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่รวมค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้ง ค่าระวางสินค้า ค่าขนส่งในประเทศ ไปจนถึงคลังจัดเก็บของฟิลิปปินส์แล้ว ขณะที่รัฐบาลไทย โดยกรมการค้าต่างประเทศ ประมูลได้ 300,000 ตัน ที่ราคาเดียวกับเวียดนาม และจะมีการส่งมอบในเดือน พ.ย. 2558-มี.ค. 2559 โดยการส่งมอบข้าว ถือเป็นระยะเวลาค่อนข้างยาว ซึ่งมีความเสี่ยงในเรื่องของราคา และการที่ฟิลิปปินส์ตัดสินใจซื้อช่วงนี้ถือว่าเป็นจังหวะเวลาที่ดีมาก เพราะราคาข้าวช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เกือบต่ำสุดแล้ว เพราะหากหักค่าขนส่งในประเทศ เท่ากับข้าวที่ฟิลิปปินส์ ที่ขายไปอยู่ที่ราคา 340 กว่าเหรียญสหรัฐต่อตัน
“สำหรับการซื้อข้าวจีทูจีของรัฐบาลอินโดนีเซียนั้น ขณะนี้ยังเงียบอยู่ เนื่องจากอินโดนีเซีย ได้ใช้นโยบายพึ่งพาตนเองที่จะพยายามไม่นำเข้าข้าว แต่คาดว่า อินโดนีเซียเอง น่าจะมีการนำเข้าข้าวอีก 500,000 ตัน ในช่วงปลายปีนี้ เพราะการผลิตข้าวในประเทศยังไม่เพียงพอกับการบริโภค ทำให้ราคาข้าวในอินโดนีเซียเริ่มมีราคาสูงขึ้น ขณะที่การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจีของไทย ตอนนี้มีคำสั่งซื้อของจีนอยู่ โดยมีการส่งมอบไปแล้วจำนวน 700,000 ตัน และกำลังจะส่งมอบไปจนถึงสิ้นปีให้ครบ 1 ล้านตัน”
อย่างไรก็ตาม ในปี 2558นี้ ทาง สมาคม คาดว่าไทยน่าจะส่งออกข้าวได้ประมาณ 9 ล้านตัน ส่วนเวียดนาม ที่ตั้งเป้าไว้ 6.7 ล้านตัน น่าจะส่งออกได้ประมาณ 6.1-6.2 ล้านตัน แต่ทั้งนี้ก็ยังคงบอกไม่ได้ว่าไทยจะเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกได้หรือไม่ คงต้องรอดูการส่งออกจากอินเดียด้วย เนื่องจากจากต้นปีมาจนถึง 17 ส.ค. ไทยส่งออกได้ประมาณ 6 ล้านตัน และอินเดียเองก็มีการส่งออกได้แล้ว จำนวน 5.7 ล้านตัน ซึ่งใกล้เคียงกับไทยมาก
ก่อนหน้านี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานว่าการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 (ม.ค.-มิ.ย.) มีปริมาณ 4,457,927 ตัน มูลค่า 72,142 ล้านบาท (2,219 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณส่งออกลดลง 4.7% และมูลค่าส่งออกลดลง 5.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่มีการส่งออกปริมาณ 4,679,361 ตัน มูลค่า 76,349 ล้านบาท (2,368 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2558
อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับ 5 ประเทศหลักส่งออกข้าวโลก ไทยยังครองผู้นำ ตามด้วย อินเดีย 4.25 ล้านตัน แต่การส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.4 เวียดนาม 2.43 ล้านตัน ติดลบร้อยละ 14.2 ปากีสถาน 2.27 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 และ สหรัฐ 1.69 ล้านตัน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 สำหรับประเทศผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่คือ ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ จีน ฯลฯ
รายงานแจ้งอีกว่า สถานการณ์ราคาส่งออกข้าวในเดือนก.ค. 2558 พบว่าปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะภัยแล้งซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลผลิตข้าว เปลือกลดลง ประกอบกับอุปทานข้าวในตลาดไม่เพียงพอกับความต้องการจึงส่งผลให้ราคาข้าวส่ง ออกเกือบทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี