เอกอัครราชทูตเกาหลี บุกพบ “คมนาคม” สนใจลงทุนโครงการเมกะโปรเจกท์ พร้อมเข้าสำรวจระบบรางโครงการเส้นทางแนวตะวันออก-ตะวันตก แม่สอด- มุกดาหาร
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2559 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้หารือกับ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย
รมว.คมนาคม กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นผลมาจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยือนที่เกาหลีก่อนหน้านี้ โดยทางเกาหลีมีความสนใจที่จะลงทุนในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าที่เป็นระบบรางเดี่ยว (Monorail) เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงมีนบุรี-แคราย และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพฯ-ระยอง กรุงเทพ-หัวหิน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอ คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP) พิจารณา โดยทางบริษัทเอกชนของเกาหลีที่สนใจลงทุนจะต้องเข้าร่วมกับบริษัทไทยในการเข้าประมูล
ส่วนความร่วมมือในระบบราง ทางเกาหลีจะส่งคณะทำงานเข้าร่วมในการศึกษาและพัฒนาระบบรางร่วมกันภายใน 2-3 เดือนนี้ เพื่อความร่วมมือด้านวิชาการในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านระบบและเทคโนโลยี และทำการสำรวจโครงการเส้นทางแนวตะวันออก-ตะวันตก ในเส้นทางแม่สอด- มุกดาหาร
รมว.คมนาคม กล่าวว่า การให้ทางเกาหลีได้เข้ามาร่วมทำการสำรวจโครงการในครั้งนี้ เนื่องจาก รองนายกฯต้องการให้เส้นทางดังกล่าวมีความคืบหน้าในการดำเนินโครงการส่วนทางนักลงทุนญี่ปุ่นที่เป็นผู้ศึกษาและสำรวจโครงการอยู่แล้วก็จะมีการศึกษาคู่ขนานกับทางเกาหลีไป ซึ่งในส่วนของการลงทุนโครงการนั้นจะต้องพิจารณาจากผลการศึกษาและความเป็นไปได้ของทั้ง 2 ประเทศอีกครั้ง แต่ได้มีการขอให้ทางเกาหลีจัดทำแผนการดำเนินโครงการหลังจากที่ลงพื้นที่ทำการสำรวจแล้วเพื่อนำผลกลับมาหารือร่วมกันอีกครั้ง หากมีความเป็นไปได้ของโครงการก็จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนของการศึกษารายละเอียดต่อไป
ในส่วนของความร่วมมือระหว่าง การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) และการท่าเรือแห่งปูซานของเกาหลี ซึ่งได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือ(MOU)ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการ และการพัฒนาท่าเรือ เพื่อดึงดูดให้มีการเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าระหว่างการท่าเรือของเกาหลีและไทยที่ท่าเรือแหลมฉบัง
มีรายงานจาก กระทรวงคมนาคม แจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้นาายอาคม ได้หารือร่วมกับ กรมการรถไฟของประเทศญี่ปุ่น โดยนายอาคม ได้รับรายงานผลการศึกษาขั้นกลางในส่วนของมูลค่าลงทุน โครงการรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีดเทรนในเส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่ ผลศึกษาพบว่า โครงการมีความคุ้มค่าด้านสังคมและเศรษฐกิจ ยกเว้นความคุ้มค่าทางด้านการเงิน ดังนั้น ทางกรมรถไฟของญี่ปุ่นจึงเสนอให้ไทยเร่งศึกษาการพัฒนาพื้นที่ข้างทาง หรือการพัฒนาโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเรื่องนี้ กระทรวงคมนาคม กำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้อยู่แล้ว โดยที่ผ่านมา สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษา และจัดทำแผนแม่บทในการพิจารณาศักยภาพริมทางรถไฟที่จะก่อสร้าง สำหรับโครงการนี้ญี่ปุ่นเสนอมูลค่าโครงการมาที่ 5.3 แสนล้านบาท ถือว่าสูงจากวงเงินที่ไทยเคยศึกษาไว้ว่าจะลงทุน 4.4 แสนล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี