วันจันทร์ ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
‘สุริยะ’เร่งจัดการจราจรรอบก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก

‘สุริยะ’เร่งจัดการจราจรรอบก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก

วันพุธ ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568, 10.42 น.
Tag : ก่อสร้าง คมนาคม รถไฟฟ้า
  •  

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ครั้งที่ 1/2568 ในวันนี้ (22 เมษายน 2568) ว่า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการที่สำคัญ พร้อมกับร่วมกันพิจารณาแนวทางการจัดการจราจรเพื่อรองรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – ตลิ่งชัน รวมไปจนถึงแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 และระยะที่ 2 เพื่อลดลดปัญหาจราจรติดขัดในจังหวัดภูเก็ต

สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินโครงการที่สำคัญมีทั้งหมด 8 เรื่อง ได้แก่ 1) ความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีโครงการที่เปิดให้บริการแล้ว 13 เส้นทาง ระยะทางรวม 276.84 กิโลเมตร ได้แก่ สายสีเขียว (สุขุมวิท) ช่วงหมอชิต – สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ – คูคต สายสีเขียว (สีลม) ช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ – บางหว้า สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ – หัวลำโพง ช่วงหัวลำโพง - บางแค (หลักสอง) และช่วงบางซื่อ – ท่าพระ แอร์พอร์ตลิงค์ ช่วงพญาไท – สุวรรณภูมิ สายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – เตาปูน สายสีทอง ช่วงกรุงธนบุรี – คลองสาน สายสีแดง (เหนือ) ช่วงบางซื่อ – รังสิต สายสีแดง (ตะวันตก) ช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี


และ 2) คำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการอนุญาตและแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและต้องการลดอุบัติเหตุ 3) รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พ.ศ. 2567 - 2580 ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งต้องมีการรายงานกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ทุกระยะ 6 เดือน เพื่อติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด 4) ความคืบหน้าการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจราจรในระยะเร่งด่วนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ กทม. 104 จุด ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จ 82 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการ 22 จุด และในพื้นที่รับผิดชอบของ ทล. 31 โครงการ ดำเนินการแล้วเสร็จ 10 จุด อยู่ระหว่างดำเนินการ 21 จุด เป็นต้น

สำหรับเรื่องที่ 5) ความคืบหน้าโครงการภายใต้แผนแม่บทสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการโครงการบริเวณแยกเกียกกาย ช่วงที่ 1 ก่อสร้างทางยกระดับและถนนฝั่งธนบุรี และช่วงที่ 2 ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทางขึ้น – ลง เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรในภาพรวมของกรุงเทพมหานคร แบ่งเบาปริมาณการจราจรของสะพานกรุงธนและสะพานพระราม ๗ และเป็นการเชื่อมต่อโครงข่ายและกระจายการเดินทางของพื้นที่ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี รวมทั้งจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรโดยรอบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางของศูนย์คมนาคมพหลโยธิน และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 6) ผลการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมืองหลักในภูมิภาค 11 จังหวัด

7) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงรูปแบบการเดินทางเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้าและสนามบิน ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พ.ศ. 2568 - 2580 เพื่อให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเชื่อมต่อการเดินทางครบทุกรูปแบบสำหรับคนทุกกลุ่มโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าและเชื่อมต่อกับสนามบิน ทั้งนี้ ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กทม. กระทรวงมหาดไทย (มท.) (จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมธนารักษ์) ทล. ทช. กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และ 8) สรุปผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (อจร.) ปีงบประมาณ 2567 และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กำชับทุกจังหวัดให้ดำเนินการจัดประชุม อจร. อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อแก้ไข ผลักดัน และติดตามปัญหาด้านการขนส่งและจราจรในเมืองภูมิภาคต่อไป

นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการจัดการจราจรเพื่อรองรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – ตลิ่งชัน โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขั้นตอนการรื้อย้ายสาธารณูปโภค ซึ่ง รฟม. จำเป็นต้องรื้อย้ายสะพานรถข้ามทางแยก จำนวน 3 สะพาน ประกอบด้วย 1) สะพานสุทธาวาส (ข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์) รื้อย้ายปี 2568 2) สะพานราชเทวี (ข้ามถนนพญาไท) รื้อย้ายปี 2568 และ 3) สะพานประตูน้ำ (ข้ามถนนราชดำริ/ถนนราชปรารภ) รื้อย้ายปี 2569 จึงจำเป็นต้องมีการกั้นพื้นที่ผิวจราจร ตามแนวเส้นทางที่มีการก่อสร้างบนถนนสายต่าง ๆ เช่น ถนนราชดำเนิน ถนนหลานหลวง ถนนเพชรบุรี ถนนราชปรารภ ถนนดินแดง และถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับงานก่อสร้าง

-031

 

โดยพื้นที่สำคัญที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการก่อสร้างคือ ถนนเพชรบุรี ช่วงแยกยมราช แยกราชเทวี และแยกประตูน้ำ เนื่องจากถนนเพชรบุรีเป็นถนนสายหลักในเส้นทางทิศตะวันออก - ตะวันตก มีปริมาณการจราจรผ่านเส้นทางเป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่พาณิชยกรรม การค้า และการท่องเที่ยว มีห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก และโรงแรม

 

จึงได้สั่งการให้ สนข. และ รฟม. เข้าตรวจสอบสภาพการจราจร ซึ่งพบว่า ความสามารถในการรองรับปริมาณการจราจร ของถนนเพชรบุรีรวมทั้งบริเวณทางแยกลดลง ส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัด จึงเห็นสมควรปรับปรุงเส้นทางการจราจรเพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชน โดยปรับการจัดการเดินรถบนถนนพระราม 6 ช่วงแยกพงษ์พระราม - แยกอุรุพงษ์ เป็นเดินรถ 2 ทิศทาง ทิศทางละ 2 ช่องจราจร เพื่อให้รถที่ลงจากทางพิเศษที่ด่านอุรุพงษ์ และรถบนถนนพระราม 6 จากแยกศรีอยุธยาสามารถใช้ถนนพระราม 6 ไปที่แยกพงษ์พระรามแล้วเลี้ยวซ้ายไปแยกปทุมวัน โดยไม่ต้องผ่านถนนเพชรบุรี ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาจราจรบริเวณพื้นที่ก่อสร้างได้ ทั้งนี้ ได้มอบหมาย กทม. กองบัญชาการตำรวจนครบาล และ รฟม. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

นายสุริยะ กล่าวตอนท้ายว่า สำหรับโครงการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรจังหวัดภูเก็ต ได้มอบหมายให้ สนข. ร่วมเข้าแก้ไขปัญหากับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับเรียกประชุมเป็นระยะ เพื่อสรุปผลการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม เบื้องต้นได้จัดทำแผนการดำเนินการเพื่อลดลดปัญหาจราจรติดขัด โดยได้มีการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence : AI) มาใช้วิเคราะห์ติดตามการไหลของจราจรและปรับสัญญาณไฟจราจรตามสภาพจราจรแบบปัจจุบัน ซึ่งเป็นโครงการที่รวมอยู่ใน 14 โครงการ ที่ได้เสนอขอรับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการปรับปรุงและเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยในการลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและทางน้ำที่สำคัญ จึงมีความจำเป็นในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโครงการบูรณาการเพื่อลดปัญหาจราจรติดขัด โดยควบคุมการไหลของการจราจร (TRAFFIC FLOW) และการเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรเพื่อควบคุมการเคลื่อนที่ของยานพาหนะบริเวณทางแยก และปรับการไหลของจราจรตามเส้นทางให้เหมาะสม โดยนำระบบ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ติดตามการไหลของจราจรและปรับสัญญาณไฟจราจร ตามสภาพจราจรแบบปัจจุบัน (REAL TIME) และมีระบบศูนย์กลางข้อมูลจราจรที่มีศักยภาพในการนำข้อมูลไปประกอบการวิเคราะห์ข้อมูลจราจรในจังหวัดภูเก็ต

 

โดยจำแนกโครงการเป็น 2 ระยะ ได้แก่ 1) โครงการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 1 เป็นการติดตั้งระบบตู้จราจรอัจฉริยะ 20 จุด และติดตั้งป้ายแสดงข้อมูล 5 จุด และ 2) โครงการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการจราจรจังหวัดภูเก็ต ระยะที่ 2 เป็นการติดตั้งระบบตู้จราจรอัจฉริยะ 20 จุด ติดตั้งป้ายแสดงข้อมูล 20 จุด และติดตั้งกล้องตรวจนับปริมาณจราจร 10 จุด ทั้งนี้ ได้มอบหมาย รฟม. เร่งรัดการดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตโดยด่วน เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรในจังหวัดภูเก็ตอย่างยั่งยืนต่อไป

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พ.ร.บ.ตั๋วร่วมใกล้คลอด ตั้งสภาผู้บริโภคเป็นกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม พ.ร.บ.ตั๋วร่วมใกล้คลอด ตั้งสภาผู้บริโภคเป็นกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม
  • ‘สุริยะ’สั่ง‘กพท.’ เตรียมความพร้อม รับการตรวจICAO ฟื้นบินตรงไทย-USA ‘สุริยะ’สั่ง‘กพท.’ เตรียมความพร้อม รับการตรวจICAO ฟื้นบินตรงไทย-USA
  • ‘สุริยะ’ เดินหน้าเปิดเส้นทางบินตรงไทย-สหรัฐฯ ส่ง กพท.เจรจา เตรียมพร้อมรับการตรวจ ICAO ภายในปลาย ส.ค. นี้ ‘สุริยะ’ เดินหน้าเปิดเส้นทางบินตรงไทย-สหรัฐฯ ส่ง กพท.เจรจา เตรียมพร้อมรับการตรวจ ICAO ภายในปลาย ส.ค. นี้
  • ดีอี ผนึก คมนาคมฯ ลงนาม MOU ใช้งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล ดีอี ผนึก คมนาคมฯ ลงนาม MOU ใช้งานบริการคลาวด์กลางภาครัฐ (GDCC) เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัล
  • \'สุริยะ\'หวังได้ใช้เงินก้อนใหญ่ ชงโครงการ5.6หมื่นล้านจากงบกระตุ้นศก. 'สุริยะ'หวังได้ใช้เงินก้อนใหญ่ ชงโครงการ5.6หมื่นล้านจากงบกระตุ้นศก.
  • ‘คมนาคม’ อัดเงิน 5.6 หมื่นล้าน หนุนจ้างงาน ดันท่องเที่ยว ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ‘คมนาคม’ อัดเงิน 5.6 หมื่นล้าน หนุนจ้างงาน ดันท่องเที่ยว ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน
  •  

Breaking News

ชาวพะเยาฮือฮา! 'กล้วยไข่'ประหลาด ออกเครือคล้าย'พญานาค'

สองพ่อลูก‘ตระกูลฮุน’ กับ‘พฤติกรรมย้อนแย้ง’ในการใช้ กม.ระหว่างประเทศ

ด่วน!‘กต.’ย้ำถก‘JBC’ไทย-กัมพูชา ไม่มีประเด็น‘แผนที่ 1:200,000’

เตรียมสวดมนต์ได้เลย! จับตาพรุ่งนี้‘กต.-ผู้แทนไทย’แถลงผล‘JBC’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved