nn แม้ว่าขณะนี้หลายๆฝ่ายยังมองว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะยังขยายตัวต่อเนื่องได้ด้วยแรงส่งการส่งออกและการท่องเที่ยว ซ้ำยังมีข่าวออกมาสำทับเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันที่จะเพิ่มขึ้นอีก จากผลของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่....

!! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าเพิ่งชะล่าใจจนเกินไปนัก...เพราะหนทางข้างหน้ามีหลายปัจจัยเสี่ยงที่รออยู่และที่สำคัญปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นดูเหมือนจะอยู่เหนือการควบคุมของเราเองซะด้วย

เรื่องแรก...ผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนและสหรัฐกับประเทศอื่นๆ...เพราะว่าเมื่อแต่ละฝ่ายสาดมาตรการตอบโต้ทางการค้าเข้าใส่กัน...ย่อมส่งผลกระทบต่อปริมาณการค้าของโลกแน่นอน...เฉพาะจีนกับสหรัฐ...ขนาดเศรษฐกิจก็ปาเข้ากว่าครึ่งของเศรษฐกิจโลกแล้ว...เมื่อเศรษฐกิจโลกทรุด การค้าการขายของตลาดโลกหดตัว...ส่งออกไทยจะไม่รับผลกระทบได้อย่างไร...และอย่าไปหวังว่าเราจะส่งสินค้าไปขายสหรัฐแทนจีน...เพราะสินค้าส่งออกไทยส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบที่ส่งไปขายจีนแล้วประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปไปขายสหรัฐอีกต่อหนึ่ง...ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ไทยส่งตรงไปขายสหรัฐ...ก็ต้องไม่ลืมว่าเราคือหนึ่งในรายชื่อบัญชีประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐ...มีหรือจะได้รับการยกเว้น...สรุป “สงครามการค้ารอบนี้เราโดนทั้งทางตรงและทางอ้อม”....

ล่าสุด สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์...ก็ออกมายอมรับว่าผลจากสงครามการค้าเริ่มมีผลต่อสินค้าส่งออก...โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดจีนลดลง 14.1%...ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนกันยายน...ลดลง 5.2%...ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 19 เดือน...

เรื่องที่ 2 ภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น...ซึ่งตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าสหรัฐอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปถึงระดับ 3%...ซึ่งแน่นอนว่า...ทุกประเทศทั่วโลกรวมทั้งไทยไม่อาจจะอั้นดอกเบี้ยต่ำแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว....และด้วยสัญญาณเงินเฟ้อของไทยที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมากว่า 1 ปีแล้ว...จึงมีความเป็นไปได้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะต้องปรับขึ้นไปแตะระดับ 2%..ภายในปลายปีนี้หรืออย่างช้าก็ต้นปีหน้า....ซึ่งนั่นก็หมายความว่าต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจไทยจะเพิ่มขึ้น...รวมทั้งภาคครัวเรือนที่ยังแบกภาระหนี้ครัวเรือนในระดับสูง เมื่อดอกเบี้ยขยับขึ้น ภาระหนี้ก็เพิ่มขึ้นอีก...ซึ่งก็จะไปฉุดกำลังซื้อของภาคครัวเรือนลงอีก...ทั้งที่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวอย่างชัดเจนด้วยซ้ำไป...

เรื่องที่ 3 ราคาน้ำมันและพลังงานชนิดต่างๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง...ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งของผู้ประกอบการไทย…ที่ตอนนี้ยังไม่มีต้นทุนด้านโลจิสติกส์สูงกว่าชาวบ้านเขา 1-2 เท่าตัวอยู่แล้ว...เจอน้ำมันแพงเข้าอีกก็โดนสองเด้งเลย...และเรื่องที่ 4 เงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ซึ่งล้วนเป็นคู่แข่งทางการค้าของเราทั้งนั้น....ขณะที่สินค้าไทยมีต้นทุนการผลิตและขนส่งที่สูงกว่าคู่แข่งและยังเสียเปรียบเรื่องค่าเงินอีก...ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยก็แทบจะไม่เหลือเลย...ที่น่าห่วงก็คือสินค้าเกษตร...เมื่อราคาขายในต่างประเทศสู้คนอื่นไม่ได้...สุดท้ายเกษตรกรก็จะถูกกดราคารับซื้อผลผลิตลงอีก....เพื่อให้พ่อค้าคนกลางมีต้นทุนต่ำลงเพื่อเอาไปชดเชยกับเรื่องค่าเงิน...

ที่บ่นๆ กันว่าช่วง 2-3 ปีมานี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี..อันนี้แค่ “เผาหลอก”....ปีหน้าสิ “เผาจริง”

พงษ์พันธุ์