nn กระแสความเข้มข้นในการรณรงค์เพื่อลดปัญหาขยะล้นโลก รวมไปถึงขยะพลาสติก ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยก็มีการตื่นตัวมากเช่นกัน เห็นได้จากหลายหน่วยงานภายในบ้านเรามีการพัฒนาระบบบริหารจัดการในหลายแนวทาง ตั้งแต่กระบวนการคัดแยกขยะ การส่งเสริมการลดใช้ภาชนะพลาสติกประเภทครั้งเดียว ควบคู่ไปกับการสร้างให้เกิดความตระหนักรู้ในเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ต่างเร่งศึกษาหาแนวทาง และมาตรการต่างๆ ที่จะลดปริมาณขยะที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง โดยในพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้นำร่องการวางระบบการบริหารจัดการให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่นิสิต อาจารย์ บุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ รวมถึงโรงอาหารทั้ง 17 แห่ง ที่จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในจุฬาฯ ผ่านโครงการ จุฬาฯ ซีโร่-เวสต์ (Chula Zero Waste) ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2561 และคาดว่าจะมีการขยายขอบเขตไปยังพื้นที่โดยรอบของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น จามจุรีสแควร์ ศูนย์หนังสือจุฬาฯโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และสภากาชาดไทย เป็นต้น
นายวรุณ วารัญญานนท์ ที่ปรึกษาเพื่อภาคีอุตสาหกรรม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปิโตรเคมีและวัสดุ (PETROMAT) กล่าวถึงการดำเนินโครงการจุฬาฯ ซีโร่-เวสต์ ในส่วนของแผนการใช้พลาสติกชีวภาพย่อยสลายได้ (Compostable Plastic) ซึ่งเป็นพลาสติกทางเลือกที่ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน โดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ GC ในการสนับสนุนพลาสติกชีวภาพนวัตกรรมใหม่ หรือ BioPBS เพื่อผลิตแก้วกระดาษไบโอพลาสติก ซึ่งมีคุณสมบัติย่อยสลายได้ภายใน 4-6 เดือน โดยพบว่า หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนมาใช้แก้วไบโอพลาสติก ในระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2561-กุมภาพันธ์ 2562) นั้น มีอัตราเฉลี่ยการใช้ถึงเดือนละ 148,900 ใบ และยังคงมีการใช้ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถเทียบเท่ากับการลดขยะพลาสติกไปได้ถึง 12.9 ตัน
นับเป็นผลสำเร็จของการดำเนินโครงการดังกล่าว ที่นอกจากลดปริมาณขยะที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งแล้ว ยังสามารถต่อยอดในการนำแก้วไบโอพลาสติกที่ใช้แล้วไปเป็นภาชนะทดแทนถุงเพาะชำ ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ในดิน โดยมีคุณสมบัติพิเศษคือ เมื่อย่อยสลายแล้วสามารถกลายเป็นสารปรับปรุงคุณภาพดินได้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้มีทั้งหน่วยงานรัฐ และสถาบันการศึกษา ขอรับแก้วที่ใช้แล้วเพื่อนำไปเพาะกล้าไม้ โดยที่จุฬาฯ ไม่ต้องจัดส่งแก้วไบโอพลาสติกสู่กระบวนการทำปุ๋ยหมักที่จังหวัดสระบุรีทั้งหมด จุดเริ่มต้นของการนำแก้วไบโอพลาสติกมาใช้ในโรงอาหารทั้ง 17 แห่งของจุฬาฯ เป็นแนวทางการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค ให้ตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น แนวทางการนำแก้วไบโอพลาสติก ซึ่งถือเป็นพลาสติกทางเลือกมาใช้ทดแทนแก้วพลาสติกทั่วไป แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าและผู้บริโภคต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบดูแลสิ่งแวดล้อม โดยการจ่ายราคาเครื่องดื่มที่สูงขึ้น 2 บาทต่อแก้ว หรือ หากนำแก้วมาเอง จะได้รับส่วนลด 2 บาทต่อแก้ว
ส่วนความต่อเนื่องของการดำเนินงาน ได้มีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้ามาใช้ในโรงอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ถุงพลาสติกรีไซเคิล ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มใช้ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา และคาดว่าปลายปีนี้ จะมีการนำหลอดไบโอพลาสติกมาใช้ในโรงอาหาร
นับเป็นก้าวสำคัญของการนำผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ มาใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ที่มีความพร้อมควรนำโมเดลไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนในแต่ละพื้นที่
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี