บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ภายในช่วงราว 1 สัปดาห์ หลังจากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) นั้น ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายแห่งก็ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าทั่วไป โดยส่วนใหญ่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขาเดียว เน้นไปที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR)และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.125-0.25%
ประเมินว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อลูกค้าเอสเอ็มอี รวมถึงลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีหลักประกันบางประเภท ผ่านการช่วยลดภาระต้นทุนและค่าครองชีพลงประมาณ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาทต่อปี คิดเป็นผลกระตุ้นเศรษฐกิจประมาณ 0.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่าเพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าและประชาชน และสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจภายหลังธปท.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มี พันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.125% ต่อปี ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) จาก 6.250% ต่อปี ลดลงเหลือ 6.125% ต่อปี MOR จาก 7.000% ต่อปี ลดลงเหลือ 6.875% ต่อปี และ MRR จาก 6.750% ต่อปี ลดลงเหลือ 6.625% ต่อปี
ทั้งนี้ ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยที่ต่ำสุดในระบบสถาบันการเงินในปัจจุบัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2562 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี