เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าของกรณีคดีโฮปเวลล์ ว่าทางกระทรวงคมนาคมได้มีการแต่งตั้งทนายความ 2 ท่าน เพื่อมาดำเนินการสู้คดีดังกล่าวคือ นายศุภชัย ใจสมุทร และนายชนินทร์ แก่นหิรัญ ในฐานะตัวแทนทนายของกระทรวงคมนาคม โดยกล่าวถึงเหตุผลที่เลือกทนายทั้ง 2 ท่านนี้ เนื่องจากเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และเพื่อให้เข้ามาช่วยเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย และพิจารณาให้รอบคอบรัดกุมมากยิ่งขึ้น
ด้าน นายนิติธร ลํ้าเหลือ ในฐานะทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในคดีโฮปเวลล์ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะทำงานฯ โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานว่า ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ 4 หน่วยงานได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรมบัญชีการ ถึงการปฏิบัติหน้าที่และความรับผิดชอบต่อคดีดังกล่าวนั้นจะต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย โดยกระทรวงการคลังจะต้องเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากการพิจารณาเอกสาร พบว่า กระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทางการรถไฟฯไม่มีอำนาจในสัญญาดังกล่าว ขณะที่การเจรจาระหว่างการรถไฟฯและเอกชนนั้น ยังดำเนินการควบคู่ไปกับการตรวจสอบรายละเอียดด้วย
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวทางกระทรวงการคลังต้องมาช่วยพิจารณาด้วยเพราะเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลเช่นเดียวกับคดีรับจำนำข้าว ที่การดำเนินการฟ้องรัฐจะต้องฟ้องมายังกระทรวงการคลัง และมองว่าคดีนี้ประชาชนทั่วไปเพียงแค่เห็นเอกสารก็รู้แล้วว่าไม่ถูกต้อง และเท่าที่ตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว เห็นว่าไม่มีการอนุญาตให้กับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) มีแต่โฮปเวลล์ (ฮ่องกง) จึงสงสัยว่าโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เป็นคนมาลงนามในสัญญาได้ไง และมาฟ้องคดีได้ยังไง ซึ่งเรื่องนี้ แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งถ้าไม่ทำ ก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด จากพยานทางเอกสาร เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ไม่ตรงกับมติ ครม.และไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงว่าเป็นธรรมและถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสัญญาสัมปทาน ซึ่งศาลปกครองจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินต่อไป แต่โดยส่วนตัวมองว่าหากเป็นตนเองจะไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายดังกล่าว
"ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของผมนะ ไม่เกี่ยวข้องกับคณะทำงาน และคณะรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเรื่องของเอกสาร ไม่ใช่เรื่องบุคคล และผมจะไม่ยอมจ่ายค่าเสียหาย เพราะข้อมูลที่เรามี เห็นว่าหลายกระบวนการไม่เป็นไปตามกฎหมาย และสัญญาไม่น่าจะมีผลบังคับใช้" นายนิติธร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี