nn บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้(2-6 ธ.ค. 2562)... โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มทรงตัวหลังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าตัวแทนของทั้ง 2 ประเทศ มีการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมาแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในฮ่องกง ส่งผลให้รัฐบาลจีนอาจมีมาตรการตอบโต้กลับ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าผู้ผลิตกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรมีแนวโน้มที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกำลังการผลิตปรับตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 12.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน…ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 55–60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 62-67เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล...
nn ผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยเตรียมเฮ...เมื่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ สกพ. ได้หารือ...กับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)... เพื่อคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย(บ้านที่อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก) ตามมาตรฐานสัญญาให้บริการผู้ใช้ไฟรายย่อยที่มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2559....ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้เห็นชอบร่วมกันจะจ่ายเฉพาะอัตราดอกเบี้ยทุก 5 ปี เริ่มคำนวณปี 2558-2562 เริ่มจ่ายปี 2563 โดยคิดในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย...แต่พบว่าแต่ละรายจะได้คืนอัตราต่ำมากเช่น 20 บาท.....จึงเห็นชอบว่าควรจะคืนเงินประกันสำหรับผู้ที่จ่ายค่าไฟต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปีหรือลูกค้าชั้นดี....!! ปัจจุบันผู้ใช้ไฟฟ้าภาคประชาชนของ กฟน.และ กฟภ.ติดมิเตอร์ประมาณ 22 ล้านราย คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 20,000 ล้านบาท และปกติเมื่อมีการขอใช้ไฟกับการไฟฟ้าจะต้องวางเงินค่าประกันการใช้ไฟ2,000-4,000 บาท/ราย....ส่วนรายใหญ่ที่เป็นภาคอุตสาหกรรมนั้น การวางเงินประกันในรูปแบบอื่นๆ เช่น แบงก์การันตี จึงไม่ได้เป็นปัญหาอะไร…
nn ที่หลายฝ่ายมองว่า...ราคาน้ำมันดิบ ปี 2562 ที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำ...จะมีผลต่อทิศทางค่าไฟตลอดปี 2563 มากน้อยเพียงใดนั้น...อันนี้ยังฟันธงไม่ได้...เพราะยังคงต้องติดตามต่อไปว่าจะมีผลสะท้อนมายังราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าว่าจะเป็นอย่างไร....อย่างไรก็ตามเบื้องต้นมีทิศทางขาลงเล็กน้อย....แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังต้องคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทและการใช้ไฟฟ้าภาพรวมด้วย....แต่ถึงกระนั้น...ก็ยังมีข่าวดีเล็กๆที่... ค่าไฟฟ้างวดแรก (ม.ค.-เม.ย. 2563) กกพ.ได้ประกาศตรึงค่าเอฟทีหรือค่าไฟฟ้าอัตโนมัติไปแล้ว ต่อเนื่องจากการตรึงค่าไฟฟ้าตลอดทั้งปี 2562 และ กกพ.เสนอใช้โครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานเดิมออกไปอีก 1 ปีหลังพบข้อดีทำให้สามารถดึงเงินที่ลงทุนไม่เป็นไปตามแผนของ 3 การไฟฟ้า (call back) ดูแลค่าไฟประชาชนจนสามารถตรึงค่าเอฟทีตลอด 16เดือนต่อเนื่อง จนถึงงวดล่าสุด (ม.ค.-เม.ย.2563)... คิดเป็นมูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท...
nn การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)... มีแผนจะผลักดันโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบจัดการพลังงาน ซึ่งใช้ผลิตไฟฟ้าตอบสนองความต้องการไฟฟ้าได้รวดเร็ว เพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำปล่อยน้ำและผลิตไฟฟ้าได้ทันที....ทั้งนี้แผนพีดีพี 2018 ได้นำแผนการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับออกเนื่องจากมีต้นทุนสูง กฟผ. จะเสนอให้บรรจุแผนการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับเข้ามาอยู่ในแผนพีดีพีอีกครั้งในการทบทวนแผนพีดีพีที่จะมีขึ้น เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงระบบสายส่งให้พร้อมรองรับพลังงานหมุนเวียน….
nn รมว.พลังงาน....ชี้นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก....ขณะนี้หน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.)....ซึ่งได้ยกร่างหลักเกณฑ์และแนวทางการร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนเสร็จแล้ว โดยจัดทำรายละเอียดที่ครบสมบูรณ์และได้นำข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ได้รับจากเวทีรับฟังความคิดเห็นมาปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนและประชาชน…และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและท้องถิ่นทั่วประเทศอย่างคึกคัก....โดยเตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์การลงทุน และเริ่มคิกออฟปี’63ตั้งเป้า 1,000 เมกะวัตต์...ทำให้มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 1 แสนล้านบาท....nn
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี