nn เรื่องของการลดใช้ถุงพลาสติกที่รัฐและภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก ร่วมรณรงค์กันอย่างจริงจังด้วยการไม่มีถุงพลาสติกให้ลูกค้า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา...ต้องบอกว่า “สร้างกระแส”ได้มากมายหลายมิติจริงๆ ในมุมความน่ารัก...มุมที่เห็นแล้วทำให้หัวเราะ ยิ้มมุมปาก...ก็เยอะแยะมากกับความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกหยิบภาชนะหลากหลายมาใส่สินค้า...มีทั้งถุงปุ๋ย กระบุง ตะกร้าไม้ไผ่สาน ตะข้องใส่ปลารถเข็นปูน ถ้วย ถัง กะละมัง หม้อ ฯลฯ มีมาครบ....
เอาล่ะ...ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ปลุกกระแสติด...แต่เอาเข้าจริงเรื่องนี้ ก็ไม่อยากให้สังคมไทยคิดแต่ว่าเป็นเรื่องของกระแส ไม่อยากให้คิดกันแบบผิวๆ แต่ควรจะตระหนักถึงกันอย่างจริงจังต่อการใส่ใจเรื่องของสภาพแวดล้อมที่ถูกทำลายด้วย“ขยะพลาสติก ประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง” และคิดไปถึงว่าจะบริโภคทรัพยากรธรรมชาติอย่างไรให้มันยั่งยืน...
แล้วอะไรที่บอกว่าคิดแบบผิวๆ....ก็อย่างเช่นมีการบอกว่าในเมื่อร้านสะดวกซื้อเช่น 7-11 หรือร้านค้าปลีกรายอื่นไม่ให้ถุงพลาสติกกับลูกค้า...ก็ควรจะทำถุงกระดาษแจกให้ลูกค้าแทน???...แสดงว่าไม่รู้จริงหรือแกล้งไม่รู้...ว่ากระดาษนั้น...แม้จะเป็นวัสดุจากธรรมชาติ...แต่กว่าจะได้มานั้นกระบวนการผลิตก็ไม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเลย....เริ่มจากต้องตัดต้นไม้มาทำเส้นใยกระดาษ การจะทำให้กระดาษออกมาเป็นแผ่นก็มีต้องใช้สารเคมี น้ำเสียจากกระบวนการผลิตก็เป็นพิษ หากไม่มีระบบบำบัดที่ดีแล้วไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติก็ทำให้แม่น้ำเน่าเสีย (ปลาตายทั้งแม่น้ำเราก็เคยกันมาแล้ว)...จากงานวิจัยหลายแหล่งระบุว่าถุงกระดาษ 1 ตัน ต้องใช้ต้นไม้ 17 ต้น ถุงกระดาษ 1 ตัน นำกลับมารีไซเคิลได้เพียง 20% ในกระบวนการผลิตถุงกระดาษ 1 ใบ สร้างมลพิษทางอากาศ 2.6 กิโลกรัม และหากใช้ถุงกระดาแทนถุงพลาสติก จะก่อให้เกิดขยะ 9 แสนตันต่อวัน ขณะที่ขยะจากพลาสติกอยู่ที่ 5.3 พันตันต่อวัน...
การผลิตถุงกระดาษต้องตัดต้นไม้ซึ่งเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนให้กับโลก เป็นแหล่งดูดซับก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นต้นตอของภาวะโลกร้อน กระบวนการผลิตนั้นก็ทำให้เกิดมลพิษทั้งทางอากาศและน้ำ ซ้ำต้องใช้พลังงานมากในการผลิตและขนส่ง ซึ่งไม่คุ้มค่ากับอายุการใช้งาน เมื่อเป็นขยะแล้วเอามารีไซเคิลได้แค่ 20% นั่นแปลว่าอีก 80% ก็ต้องไปกำจัดทิ้ง ถ้าเอาไปฝังกลบก็จะก่อให้เกิดก๊าซมีเทน และเมื่ออายุการใช้งานสั้น เอามาใช้ใหม่ได้น้อย ก็ต้องผลิตจำนวนมาก...ซึ่งก็ยิ่งไปเพิ่มอัตราการตัดต้นไม้ เพิ่มมลพิษจากกระบวนการผลิตและขนส่ง...!! ใครจะโหนกระแส..งดใช้ถุงพลาสติกแล้วมาพูดแค่ว่าให้ใช้ถุงกระดาแทน...ควรคำนึงถึงรายละเอียดเหล่านี้...แบบนี้จึงจะเรียกว่าไม่ได้คิดแบบผิวๆเอาแต่อิงกระแส....
อีกอย่างหนึ่งที่ต้องคิดให้ดีๆ...ว่าเรื่องขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง กับ ผลิตภัณฑ์พลาสติก มันคนละเรื่องกัน....ผลิตภัณฑ์พลาสติก ...ไม่ใช่วายร้ายของโลกที่เราต้องตัดมันทิ้งมันไปจากโลกใบนี้....!! เอาเข้าจริงถามตัวเองดูว่าชีวิตจริงโลกนี้จะไม่ใช้พลาสติกเลยได้ไหม... ถ้าจะตอบว่าทำได้ แล้วก็หันมาใช้วัสดุธรรมชาติแทนแบบ 100%...ก็ลองถามตัวเองสิว่า วัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ตอนนี้ มันเพียงพอให้ประชากรชาวโลกใช้หรือเปล่า....
สิ่งที่ต้องทำวันนี้คือ ปลุกฝังจิตสำนึกให้ประชาชนช่วยการลดละเลิกการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง อย่างที่ 7-11 ทำมาตลอดกว่า 10 ปี....ซึ่งลดการใช้ถุงพลาสติกของลูกค้า 7-11 ไปแล้วกว่า 998 ล้านใบ แปลงเป็นเงินบริจาค 134 ล้านบาท มอบให้กับ โรงพยาบาล 77 แห่งทั่วประเทศ...และจากนี้ไปก็ต้องร่วมกันกระตุ้นให้ภาครัฐเข้าไปสนับสนุนผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกให้คิดค้นผลิตภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งในมิติของการใช้งานและมิติของกระบวนการผลิต ฯลฯ...แบบนี้ถึงจะเรียกว่า ตระหนักรู้อย่างจริงจังในเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี