"ศักดิ์สยาม"ยืนยันสู้ไม่ถอย"คดีค่าโง่โฮปเวลล์"เดินหน้าลุย ฟ้อง"ศาลแพ่ง"ปมจดทะเบียนโดยมิชอบ หลัง"ศาลปกครองกลาง"ไม่รับคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเกี่ยวกับกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลาง ไม่รับคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ดำเนินการตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ จ่ายเงินชดเชยให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ภายใน 180 วัน นับจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่ง ซึ่งทางการรถไฟฯ ได้ประเมินมูลหนี้รวมตามคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.2551 ถึงสิ้นเดือน เม.ย.2562 รวมวงเงิน 25,411 ล้านบาท
ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากทางการรถไฟฯ อย่างเป็นทางการ โดยการดำเนินการต้องเคารพคำตัดสินของศาลที่ออกมา และจะมีการหารือกับทางการรถไฟฯ เพื่อพิจารณาหาวิธีดำเนินการต่อไป ซึ่งได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาแล้ว และยืนยันจะทำจนถึงที่สุด ขณะนี้ทางการรถไฟฯ ก็ได้ยื่นฟ้องศาลแพ่งไปแล้วด้วย และอยู่ระหว่างรอว่าศาลจะรับคำร้องหรือไม่ ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่นั้นถือเป็นข้อมูลใหม่ ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ของการจดทะเบียนบริษัทที่ทำให้ผลการทำนิติกรรมสัญญาอาจมิชอบ โดยขณะนี้ถือว่ามีเวลา 90 วัน ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย หากทำแล้วผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้นทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาล
สำหรับคดีบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ฟ้อง กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น ทางศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2562 โดยให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเงินทั้งสิ้น 24,800 ล้านบาท ต่อมากระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2562 และวันที่ 23 ส.ค.2562 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอพิจารณาคดีใหม่ พนักงานอัยการผู้รับมอบอำนาจได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับคำขอพิจารณาคดีใหม่ เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2562
ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุดได้อ่านคำสั่งไม่รับคำอุทธรณ์ขอให้พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ โดยผลจากคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย ถือว่าถึงที่สุดแล้ว แต่หากมีข้อเท็จจริงอื่นที่อาจร้องขอพิจารณาคดีใหม่ได้ตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง และวิธีพิจรณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ฝ่ายรัฐอาจยื่นคำร้องต่อศาลปกครองชั้นต้นได้ โดยต้องกระทำภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุนั้น แต่ต้องไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงคมนาคมก็เคารพในคำพิพากษาต่อคำสั่งดังกล่าว ฝ่ายรัฐจะถือปฏิบัติตามคำพิพากษาหรืคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด ในขณะเดียวกันก็จะแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้ต่อไป
ในส่วนของการศึกษาฝ่ายกฎหมายก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาข้อมูล และทางการถไฟฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด และกำลังรออยู่ว่าศาลจะรับคำฟ้องหรือไม่ เพราะข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลใหม่ในเรื่องของความไม่สมบูรณ์ของการเปลี่ยนแปลงนิติบุคคลบริษัท โฮปเวลล์ มีผลดำเนินการทางนิติกรรมสัญญา อาจจะมิชอบ ทางฝ่ายทนายความของทางการรถไฟฯ จะดำเนินการ โดยต้องทำให้ครบถ้วน และดูคำวินิจฉัยเป็นอย่างไร เพราะว่าเรื่องนี้ต้องเรียนกว่าเป็นเรื่องเก่า ข้อมูลที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินการในช่วงเวลาที่เข้ามารับก็มีข้อมูลใหม่ ก็ต้องดำเนินการ ขณะที่คดีอาญานั้น ก็จะดำเนินการต่อและส่งไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนเรื่องความไม่ชอบของการจดทะเบียนนิติบุคคลก็จะฟ้องไปที่ศาลแพ่งด้วย และยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ส่วนตัวมั่นใจ แต่ทั้งหมดต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี