เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า กรอบตัวเลขหนี้สาธารณะที่ไม่ควรเกิน 60% ของจีดีพี เป็นตัวเลขที่กำหนดเป็นกรอบไว้ในช่วงภาวะปกติ ซึ่งจากสถานการณ์วิกฤติจากผลกระทบโควิดขณะนี้ ผู้ที่มีความสามารถพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ คือ ภาครัฐ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการออกมาตรการทางการคลัง ผ่านโครงการต่างๆ ดังนั้นจึงไม่อยากให้หลายฝ่ายกังวลที่ตัวเลขเพดานมากเกินไป เพราะขณะนี้สถานการณ์ไม่ปกติและเกิดขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ มองว่าควรโฟกัสที่การนำเงินไปใช้ในโครงการ ต่างๆ ซึ่งควรเน้นโครงการที่ทำให้เกิดการจ้างงาน หรือการปรับโครงสร้างที่จะนำไปสู่วิถีชีวิตหรือธุรกิจรูปแบบใหม่หลังโควิด-19
"การใช้จ่ายของภาครัฐต้องคำนึงถึงความสามารถในการหารายได้ในอนาคต ซึ่งต้องวางแผนแนวทางหารายได้เพิ่มให้สอดคล้องกับการชำระหนี้ที่ก่อขึ้น เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน เป็นต้น ทั้งนี้มาตรการต่างๆ ควรเป็นมาตรการชั่วคราว และเมื่อสถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ต้องลดการใช้มาตรการลง หรือปรับให้เหมาะสมกับความสามารถการชำระหนี้ในอนาคต"นายวิรไท กล่าว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: รัฐถังแตก!!! รายได้หดวูบ เงินคงคลังเกือบเกลี้ยง ต้องกู้เพิ่ม 2.14 แสนล้าน)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี