วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ผุดโครงการ‘ดีอาร์บิส’  ธปท.ช่วยรายใหญ่สางหนี้ค้างชำระ

ผุดโครงการ‘ดีอาร์บิส’ ธปท.ช่วยรายใหญ่สางหนี้ค้างชำระ

วันเสาร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag : ดีอาร์บิส ธปท.
  •  

 

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ แถลงข่าวเปิด “โครงการ DR BIZ การเงินร่วมใจ ธุรกิจไทยมั่นคง” (โครงการดีอาร์บิส)


นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า วัตถุประสงค์โครงการนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายรายให้ได้รับการบรรเทาภาระหนี้ และให้มีกลไกในการจัดการหนี้กับสถาบันการเงินทุกแห่งได้อย่างบูรณาการ ซึ่งจะช่วยลดเวลาให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น ผ่านแนวทางแก้ไขหนี้ที่เจ้าหนี้ได้ตกลงร่วมกันในรูปแบบมาตรฐาน และการกำหนดบทบาทของเจ้าหนี้หลักในการดูแลลูกหนี้และประสานกับเจ้าหนี้อื่น ทำให้การตัดสินใจแก้ไขหนี้ทำได้รวดเร็วและเบ็ดเสร็จ ให้ธุรกิจของลูกหนี้สามารถฟื้นตัวได้ตามศักยภาพของตนเอง รวมทั้งปรับตัวให้เท่าทันกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ภาคธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการจ้างงานและเศรษฐกิจของประเทศสามารถฟื้นตัวได้ในระยะต่อไป

สำหรับลูกหนี้ธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการ DR BIZ เป็นกลุ่มที่ยังคงมีศักยภาพแต่ประสบปัญหาจากสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบจากไวรัสโควิด-19โดยสถาบันการเงินจะมีเครื่องมือและแนวทางการช่วยเหลือลูกหนี้ธุรกิจที่เหมาะสมกับศักยภาพของลูกหนี้แต่ละราย เช่น การขยายเวลาชำระหนี้ การลดค่างวด หรือการปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระหนี้ให้สอดรับกับธุรกิจของลูกหนี้ รวมทั้งการพิจารณาให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกหนี้ที่มีศักยภาพ มีแผนธุรกิจชัดเจน มีพฤติกรรมชำระหนี้ดีและมีความตั้งใจในการทำธุรกิจ

โดยในระยะแรกเพื่อให้โครงการสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมุ่งกลุ่มลูกหนี้ธุรกิจที่มีหนี้กับเจ้าหนี้สถาบันการเงินหลายรายวงเงินรวมกันตั้งแต่50-500 ล้านบาท และสามารถใช้แนวทางที่กำหนดร่วมกันดังกล่าวขยายผลไปยังกลุ่มลูกหนี้ธุรกิจที่มีวงเงินขนาดอื่นได้ต่อไป ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการทำได้โดยลูกหนี้สามารถติดต่อสมัครโดยตรงกับสถาบันการเงินหลักที่ใช้บริการหรือสถาบันการเงินแจ้งเชิญลูกหนี้เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป

ปัจจุบันลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายรายวงเงินรวมหนี้ตั้งแต่ 50-500 ล้านบาท ประมาณ 8,400 คนคิดเป็นเม็ดเงินรวมเกือบ 1.2 ล้านล้านบาท โดยโครงการDR BIZ จะเป็นการเข้าไปช่วยปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ธุรกิจที่มีเจ้าหนี้หลายราย อาทิ ผ่อนชำระหนี้ที่เหมาะสม ตลอดจนให้สินเชื่อใหม่ ซึ่งจะมีการกำหนดมาตรฐานและกรอบเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินการช่วยเหลือลูกหนี้ หรือภายใน 1 เดือน หลังได้รับข้อมูลและเอกสารจากลูกหนี้ครบถ้วน ซึ่งคาดว่าจะมีลูกหนี้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย

นายวิรไทยังแสดงความเห็นถึง กรอบตัวเลขหนี้สาธารณะของไทยที่วางกรอบไม่ควรเกิน 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ว่า เป็นตัวเลขที่กำหนดเป็นกรอบไว้ในช่วงภาวะปกติ ซึ่งจากสถานการณ์วิกฤติจากผลกระทบโควิดขณะนี้ ผู้ที่มีความสามารถพยุงและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ คือ ภาครัฐ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการออกมาตรการทางการคลัง ผ่านโครงการต่างๆ ดังนั้นจึงไม่อยากให้หลายฝ่ายกังวลที่ตัวเลขเพดานมากเกินไป เพราะขณะนี้สถานการณ์ไม่ปกติและเกิดขึ้นทั่วโลก

พร้อมย้ำว่าการใช้จ่ายของภาครัฐต้องคำนึงถึงความสามารถในการหารายได้ในอนาคต ซึ่งต้องวางแผนแนวทางหารายได้เพิ่มให้สอดคล้องกับการชำระหนี้ที่ก่อขึ้น เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน เป็นต้น

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก. ธุรกิจชะลอลงทุนตุนสภาพคล่อง ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก. ธุรกิจชะลอลงทุนตุนสภาพคล่อง
  • ธปท. เคาะ 3 กลุ่มทุนฯ ตั้ง Virtual Bank ธปท. เคาะ 3 กลุ่มทุนฯ ตั้ง Virtual Bank
  • เศรษฐกิจไทยเม.ย.ดีขึ้น การผลิต-บริการ-ลงทุนเอกชนหนุน เศรษฐกิจไทยเม.ย.ดีขึ้น การผลิต-บริการ-ลงทุนเอกชนหนุน
  • ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจร่วง  หวั่นเศรษฐกิจไม่แน่นอน ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจร่วง หวั่นเศรษฐกิจไม่แน่นอน
  • คลังเร่งหามาตรการเสริมพยุงจีดีพีไม่ให้ต่ำกว่า 3% คลังเร่งหามาตรการเสริมพยุงจีดีพีไม่ให้ต่ำกว่า 3%
  • ครม.ไฟเขียว‘สมชัย สัจจพงษ์’นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติแล้ว ครม.ไฟเขียว‘สมชัย สัจจพงษ์’นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติแล้ว
  •  

Breaking News

หนุ่มใหญ่โมโหฟันรุ่นน้องดับ อ้างถูกท้าทายในวงเหล้า

ลูกเขยคลั่ง! มีดฟันพ่อตา-แม่ยาย-เมียสาหัส สุดท้ายผูกคอดับหนีผิด

นายกฯเสียค่าโง่?! 'นิพิฏฐ์'เตือน'อิ๊งค์'ระวังคำพูดจะย้อนเข้าตัว

ระวังจบไม่สวย! 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง'ฉะยับ'พวกนักการเมือง'เฉยเมยปม'ดินแดน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved