“กทพ.-ทล.” เล็งร่วมทุนทางด่วนเส้นใหม่ “ศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” / “รังสิต-องค์รักษ์-นครนายก” พร้อมเตรียมเสนอ คจร.แยกส่วนก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 หลังเคลียร์ ม.เกษตรฯไม่จบ
5 ตุลาคม 2563 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มีการสั่งการให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เร่งแก้ไขปัญหาการจราจรและเร่งรัดการดำเนินโครงการต่างๆ ที่ในหลายโครงการใช้เงินลงทุนจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ (TFFIF) ต้องเร่งเบิกจ่าย หากล่าช้าจะเป็นภาระเรื่องดอกเบี้ย นอกจากนี้ขอให้การดำเนินงานทุกโครงการต้องศึกษาเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน และมีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีส่วนร่วม
ทั้งนี้ ทาง กทพ. ได้เสนอแนวคิดว่าจะร่วมทุนการดำเนินโครงการสร้างทางด่วนสายใหม่กับกรมทางหลวง (ทล.) 2 เส้นทางได้แก่ โครงการก่อสร้างทางยกระดับ ช่วงศรีนครินทร์-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะทาง 18.5 กิโลเมตร วงเงิน 35,000 ล้านบาท และเส้นทางรังสิต-องค์รักษ์-นครนายก ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร วงเงิน 11,000 ล้านบาท โดยเส้นนี้จะเชื่อมต่อจากทางยกระดับอุตราภิมุข และขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในเรื่องสัดส่วนการร่วมทุน
ในส่วนของความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ N1 ช่วงงามวงศ์วาน-มหาวิทยาลัยเกษตรฯ และ N2 ช่วงแยกเกษตร-นวมินทร์นั้น ขณะนี้การเจรจายังไม่เรียบร้อยเพราะยังมีปัญหาในส่วนของบริเวณมหาวิทยาลัยเกษตรฯ และเนื่องจากทาง กทพ.มีข้อกำจัดเรื่องเงินกองทุนรวม TFFIF ซึ่งมีภาระดอกเบี้ยปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีวงเงินกองทุนประมาณ 40,000 บาท และเตรียมเสนอเรื่องเพื่อแยกส่วนในการดำเนินโครงการเป็น 2 ส่วน จากงามวงศ์วาน-มหาวิทยาลัยเกษตรฯ และจากมหาวิทยาลัยเกษตรฯ-นวมินทร์ เข้าคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ตัดในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ก่อน โดยส่วนที่มีปัญหาที่ต้องเจรจาให้เว้นไว้ก่อนคล้ายโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ
ในส่วนที่มีปัญหาที่อยู่ระหว่างการเจรจาก็จะดำเนินการศึกษาการดำเนินการก่อสร้าง เบื้องต้นหากจะต้องมีการปรับแบบเป็นการก่อสร้างอุโมงค์ก็จะต้องใช้งบประมาณเพิ่ม 20,000 ล้านบาท แต่ก็ต้องทำการศึกษาและหากเป็นไปได้มองว่าอยากให้ใช้แนวทางเดิมเนื่องจากจะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามหาก คจร. เห็นชอบก็สามารถเปิดประมูลการดำเนินโครงการได้ทันทีคาดว่าประมาณต้นปี 2564 นอกจากนี้ในส่วนของความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลนั้นขณะนี้ก็ได้ข้อสรุปตกลงแล้ว
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้วางแผนการต่อขยายโครงข่ายทางพิเศษฉลองรัชไปยัง จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว เนื่องจากในปัจจุบันการเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังจังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี จะใช้ถนนพหลโยธิน และ ถนนรังสิต-นครนายก เป็นเส้นทางหลัก ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณการจราจรหนาแน่น ซึ่งเป็นเส้นทางหลักสู่ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ตลอดแนวเส้นทาง นอกจากนั้นเส้นทางดังกล่าว ยังมีปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและช่วงเทศกาลจะเกิดปัญหาการจราจรติดขัดตลอดแนวเส้นทาง
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า สัญญางานจ้างผู้ให้บริการออกแบบรายละเอียดโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ในครั้งนี้จะแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 บริเวณจุดเชื่อมต่อโครงการจากทางพิเศษฉลองรัชถึงนครนายก และระยะที่ 2 จากนครนายกถึงสระบุรี โดยมีค่าจ้างให้บริการ ออกแบบรายละเอียด จำนวน 380 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 540 วัน ขณะที่โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการจัดทำเอกสารการประกวดราคา (TOR) หลังจากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2566 และเปิดให้บริการได้ในปี 2568 จะช่วยเพิ่มความสะดวก ปลอดภัย และประหยัดเวลาแก่ผู้ใช้เส้นทางที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และถนนพหลโยธิน และระบบโครงข่ายถนนปัจจุบันที่แนวเส้นทางโครงการตัดผ่าน รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มศักยภาพ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในพื้นที่โครงการและในระดับประเทศ
ทั้งนี้ แนวเส้นทางโครงการพิเศษฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี เป็นทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร (ทิศทางละ 3 ช่องจราจร) มีทิศทางเริ่มต้นเชื่อมต่อกับทางพิเศษฉลองรัชที่ด่านฯ จตุโชติ บริเวณถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) แนวเส้นทางจะไปทางทิศตะวันออกตัดผ่านถนนหทัยราษฎร์และถนนนิมิตใหม่ จากนั้นเลี้ยวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตัดผ่านถนนลำลูกกา บริเวณ กม. 22+500 ทางหลวงชนบท นย. 3001 ถนนรังสิต-นครนายก บริเวณ กม. 59+800 แล้วขึ้นไปทางทิศเหนือ ตัดผ่านทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 (ถนนสุวรรณศร) บริเวณ กม. 116+000 และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3222 จากนั้นแนวเส้นทางจะขนานไปตามทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 3222 เชื่อมต่อกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (บางปะอิน-นครราชสีมา) และทางเลี่ยงเมืองสระบุรี (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 362) ด้านตะวันออก สิ้นสุดโครงการที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) ที่บริเวณ กม. 10+700อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
สำหรับทางขึ้น-ลง 9 แห่ง คือ 1. ถนนวงแหวนรอบนอกฯ 2. ถนนหทัยราษฎร์ 3. ถนนลำลูกกา 4. ทางหลวงชนบท นย. 3001 (องครักษ์) 5. ถนนรังสิต-นครนายก (บางอ้อ) 6. ถนนสุวรรณศร (บ้านนา) 7. ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 (บางปะอิน-นครราชสีมา) 8. ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี 9. ถนนมิตรภาพและมีจุดพักรถ (Rest Area) 1 จุด บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษบางอ้อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี