เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2564 ที่รัฐสภา นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม กมธ.กรณีการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า หลังจากที่ กมธ.ได้เชิญส่วนข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวมาชี้แจง 2 ครั้ง กมธ.ได้ข้อสรุป 5 ประเด็น คือ 1.กรอบเวลาในการต่ออายุสัมปทาน เหลือเวลาอีก 9 ปี จึงจะกลายเป็นของรัฐ ซึ่งมีแนวคิดให้ กทม.ต่ออายุสัมปทานออกไปอีก โดยเรื่องนี้ยังมีเวลาเพียงพอที่จะหาความชัดเจนและชี้แจงให้กับสังคมได้รับทราบว่าโครงการนี้ยังเป็นโครงการที่มีกำไร แต่ยังไม่คืนทุน
2.ความโปร่งใสในการต่ออายุสัมปทาน มีการอาศัยอำนาจตามตรา 44 ยกเว้นตามกระบวนการ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ซึ่ง กมธ.เห็นว่าแม้จะใช้มาตรา 44 ยกเว้นได้แต่เงื่อนไขเวลายังเหลืออยู่ จึงไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอะไรจะใช้มาตรา 44 ในการยกเว้นตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนดังกล่าว 3.ระบบวินัยการเงินการคลัง กระบวนการต่อสัมปทานไม่ได้ยื่นผ่านตามกระบวนการวินัยการเงินการคลังของรัฐ ยิ่งเมื่อเป็นโครงการขนาดใหญ่ ยิ่งควรจะตรวจสอบได้ 4.อัตราค่าโดยสาร ขณะนี้ความเห็นยังไม่ตรงกัน เพราะข้อมูลที่ได้จากการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลคือไม่สามารถเอาข้อมูลมาแสดงต่อ กมธ.ได้ว่า เหตุใดจึงไปจบที่ราคา 65 บาท และ 5.ความคุ้มทุนและประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนและรัฐจะได้รับ จากการที่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ตอบไม่ได้ว่าถ้าเราไม่ต่ออายุสัมปทานเราจะเสียประโยชน์หรือได้ประโยชน์อย่างไร
"กมธ.จึงมิติเป็นเอกฉันท์ 2 มติ คือ 1.ไม่เห็นด้วยกับการต่ออายุสัมปทานครั้งนี้ และ 2.กมธ.ขอให้ กทม.มีการชะลอการขึ้นค่าโดยสาร 104 บาท ที่จะมีผลในวันที่ 16 ก.พ.64 ออกไปก่อน" นายโสภณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี