nn เมื่อรัฐบาลจะเปิดประเทศ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564....ด้วยเหตุผลที่ว่า...การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยมีแนวโน้มของสถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนในระดับคงที่ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง และผู้ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น และรัฐบาลได้ดำเนินการจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชนในภาคส่วนต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศ รัฐบาลจึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีการฟื้นฟูประเทศเพื่อประโยชน์ด้านการใช้ชีวิตความเป็นอยู่และด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน และในเบื้องต้นจึงเห็นควรให้มีการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศได้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงานในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง ฯลฯ
นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลคิด...แต่ในความเป็นจริงประชาชนไม่ถึง 50% ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล...เพราะมีคำถามหลายคำถามที่ก่อให้เกิดความกังวลใจกับประชาชน...ที่สำคัญคือ ไทยพร้อมที่จะเปิดประเทศจริงหรือไม่....ในเมื่อตัวเลขล่าสุด (21 ตุลาคม 2564) คนไทยได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 39,039,849 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 27,405,800 ราย เข็มที่ 3 จำนวน 2,057,409 ราย… หากจะทำให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่ (จริงๆ)คนไทย 50 ล้านคน (70%) จะต้องรับวัคซีน (ที่มีคุณภาพ) ครบ 2 เข็ม...วันนี้ยังไม่ถึง...เป้าหมายของรัฐบาลคือภายในสิ้นปี...แต่รัฐบาลเปิดประเทศก่อนถึงเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 30 วัน...
อีกมุมที่สำคัญคือ ณ วันนี้ภาพรวมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังทรงตัวอยู่ระดับหมื่นคน และพบการระบาดแบบกลุ่มก้อนใหม่ๆทั่วทุกพื้นที่....และจากตัวเลขของทางการ ชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยก่อนหน้านี้...ไม่ว่าจะเหตุผลทางธุรกิจ หรือในโครงการพื้นที่ท่องเที่ยวนำร่อง(ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์)...พบว่ากว่า 90% ติดเชื้อโควิด-19...ด้วยสถานการณ์ทั่วโลกที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว และพบเจอสายพันธุ์ใหม่ๆ...คำถามคือ...ระบบสาธารณสุขของไทยรับไหวไหม...บุคลากรทางการแพทย์เหนื่อยล้ามามากเกือบ 2 ปี...ทนต่อไปได้อีกไหม...มีเตียงว่างเหลือพอรับคนไข้ใหม่ทั้งอาการหนักและไม่หนัก อยู่กี่เตียง ณ ตอนนี้....พร้อมรับอัตราเร่งที่จะเกิดในระลอก 4-5 ได้หรือเปล่า ???
มาถึงตรงนี้จึงมีคำถามต่ออีกว่า...เปิดประเทศแล้วจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้อย่างที่รัฐบาลคาดหวังไว้...ได้จริงหรือ????...เพราะด้วยสภาพการรับมือโควิด-19ของไทยเช่นนี้...คิดว่านักท่องเที่ยวจะกล้ามาประเทศไทยตอนนี้เลยหรือไม่????....โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติระดับเศรษฐีที่รัฐบาลคาดหวัง....ส่วนนักท่องเที่ยวระดับกลาง ที่เคยเข้ามาเที่ยวไทยปีละ 20-30 ล้านคน...ด้วยสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาต่อเนื่องถึง 2 ปี....จะมีนักท่องเที่ยวที่มีเงินพอจะออกเดินทางท่องเที่ยวได้มากเท่าเดิมได้หรือไม่...!! ไม่ต้องให้นักเศรษฐศาสตร์ตอบก็ได้...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...ก็ตอบได้เลยว่า...“ไม่”
และอย่าลืมมองข้ามประเด็นปลีกย่อยตรงที่...จริตของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย...นอกจากธรรมชาติ วัดวาอาราม ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ...อีกหนึ่งแรงดึงดูดที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ชอบ คือ...สีสันและชีวิตยามค่ำคืนด้วย...มาแล้วเที่ยวกลางคืนไม่ได้ 1 เดือน กว่าร้านเหล้า ผับบาร์จะเปิด...เขาจะมาไหม...และหากเปิดให้ชีวิตกลางคืนดำเนินได้ตามปกติ..หากเกิดการระบาดระลอกใหม่จำนวนมากๆ...รัฐบาลจะปิดร้านเหล้า ผับ บาร์ สถานที่ดื่มกินยามค่ำคืน หรือสตรีทฟู้ด...อีกไหม???....เรามีมาตรการที่ดีพอที่จะรองรับไหมให้เราต้องเปิดๆปิดๆ...สถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนหรือยัง...???
สรุปตรงนี้ว่า...ถ้ารัฐบาลเลือกที่จะเล่นเกมเสี่ยง ก็ต้องมีหน้าตักพอที่จะรับความเสี่ยงด้วย...
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี