ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เผยโฉมฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ ครั้งแรกในโลก ด้วยการผสานสมรรถนะเพื่อการผจญภัย เข้ากับความสะดวกสบายอันเหนือระดับ และเทคโนโลยีเพื่อผู้ขับขี่ในรูปแบบของรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ที่พร้อมลุย หรูหรา และสนุกในทุกการเดินทาง
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง (SUV) ได้รับการพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับคนรักการผจญภัยตัวจริง มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่า ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์อเมริกันพันธุ์แกร่ง สะท้อนดีเอ็นเอ ด้านการออกแบบระดับโลกของฟอร์ดอย่างชัดเจน ไฟหน้าใหม่รูปตัว C และลายเส้นอันทรงพลัง บนกระจังหน้า ส่วนหน้าของรถ ยังมีการผสมผสานขององค์ประกอบที่มีทั้งแนวตั้งและแนวนอน สื่อถึงเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือชั้น เส้นด้านข้างตัวถัง ทอดยาวจากด้านหน้า จรดท้ายรถเน้นการออกแบบตัวถัง ที่สะดุดตา ฐานล้อที่กว้างทำให้ซุ้มล้อใหญ่โดดเด่น เพิ่มความแข็งแกร่ง และทันสมัยให้กับรถ
การตกแต่งภายในห้องโดยสาร ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านสมัยใหม่ การใช้วัสดุตกแต่งที่ให้ความรู้สึกหรูหรา และติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศในทุกส่วน ที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ความกว้างขวางในห้องโดยสาร เกิดจากการออกแบบที่สอดรับกันหลายส่วน ตั้งแต่แผงหน้าปัดด้านหน้าที่วางเต็มความกว้างของพื้นที่ คอนโซลกลาง พร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง และที่วางแก้วน้ำแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะคู่หน้า
ในบางรุ่นรถยังรองรับระบบการชาร์จแบบไร้สาย เกียร์อัตโนมัติ แบบ Electronic Shifter หุ้มด้วยหนังสวยงามจับถนัดมือ พร้อมเบรกไฟฟ้า เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง สามารถปรับอุณหภูมิและระบายอากาศได้ เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และเบาะนั่งแถว 2 ยังสามารถปรับอุณหภูมิได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย ในส่วนของเบาะนั่งแถวที่ 3 เข้า-ออกได้ง่ายขึ้น ด้วยการออกแบบให้เบาะนั่งแถวที่ 2 ขยับมาด้านหน้ามากกว่าเดิม นอกจากนี้ ผู้โดยสารทุกคนยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระ และชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของตนเองได้ ด้วยการติดตั้งปลั๊กไฟทั้ง 3 แถว
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับ อุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสาร และเทคโนโลยีอันทันสมัย ด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัล ขนาด 8 หรือ 12.4 นิ้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นย่อย และยังมีหน้าจอแบบสัมผัสความคมชัดสูงขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว อีกด้วย หน้าจอทัชสกรีนแนวตั้ง เชื่อมต่อกับกล้อง 360 องศา โดยมีหน้าจอแยกส่วน เพื่อให้จอดรถได้สะดวกยิ่งขึ้นในพื้นที่แคบ หรือ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ในการเดินทางบนสภาพเส้นทางที่มีความสมบุกสมบัน รวมทั้งระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC® 4A พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงรวมถึงการติดตั้งโมเด็มจากโรงงานเพื่อเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชันฟอร์ดพาส(FordPass™) เพื่อยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถ ด้วยความสามารถในการสตาร์ทรถจากระยะไกล การตรวจเช็คสถานะต่างๆ ของรถ รวมไปถึงการล็อค และปลดล็อค ผ่านโทรศัพท์มือถือ
เครื่องยนต์ใหม่ และขุมพลังเหนือชั้น ด้วยการนำเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบ มาปรับจูนให้เหมาะกับฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพื่อเป็น 1 ใน 3 ตัวเลือกของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล สำหรับบางประเทศ รวมถึงเครื่องยนต์ที่เหมาะกับไลฟสไตล์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน 2.3 ลิตร EcoBoost และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ อีก 2 แบบ ทั้งที่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ แบบซีเล็กชิฟท์ 10 สปีด
ขณะที่ห้องเครื่องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับแบตเตอรี่สำรองอีกลูก เพื่อส่งมอบพลังให้กับอุปกรณ์เสริมราวหลังคาของเอเวอเรสต์ ออกแบบมาเพื่อการผจญภัยโดยเฉพาะ รองรับน้ำหนักได้มากถึง 350 กิโลกรัมขณะรถจอดอยู่กับที่ และรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กิโลกรัม ขณะรถเคลื่อนที่ มอบการใช้งานแบบอเนกประสงค์ยิ่งขึ้นเพื่อบรรทุกสิ่งของ เช่น จักรยาน เรือแคนู กล่องสัมภาระ ไปจนถึงเต็นท์บนหลังคารถ พร้อมจุดยึดที่รองรับการใช้งานหลากหลาย เหมาะสำหรับการติดตั้งหรือใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ มีตัวเลือกระบบการขับขี่ 4 ล้อ 2 รูปแบบ ประกอบด้วย เกียร์ ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ พร้อมการเปลี่ยนโหมดการขับขี่ ขณะรถเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า (Electronic Shift-On-The-Fly) หรือ เรียกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์ กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูงแบบฟูลไทม์ ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์ แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case - EMTC) ควบคุมด้วยไฟฟ้า พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกใช้งานให้เหมาะกับสภาพถนนได้ และในบางประเทศ เอเวอเรสต์ ยังมาพร้อมตัวเลือกระบบการขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อด้วย
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด จะแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถ และสภาพเส้นทางด้านหน้า จากกล้องหน้าพร้อมกับแนวเส้นกะระยะ ช่วยผู้ขับขี่ฝ่าทุกอุปสรรคได้ง่ายขึ้น เพียงกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ผู้ขับขี่สามารถเลือกดูข้อมูลได้ครบครัน ทั้งระบบส่งกำลัง และระบบล็อกเฟืองท้าย มุมการบังคับควบคุมพวงมาลัย และระดับความเอียงของรถ โดยสามารถลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร และมีความสามารถในการลากจูงถึง 3,500 กิโลกรัม
ด้านเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ และอุปกรณ์ปกป้องความปลอดภัย มีให้ครบครัน
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Adaptive cruise control with stop and go) ช่วยผู้ขับขี่รักษาความเร็วตามที่ตั้งไว้ และรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้า พร้อมเบรกให้รถจอดสนิทเมื่อจำเป็น
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go และควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง (Adaptive cruise control with stop and go and lane centering) จับเส้นแบ่งช่องทางและช่วยควบคุมให้รถอยู่ตรงกลางช่องทางได้
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะ (Intelligent adaptive cruise control) อ่านป้ายจราจรและปรับความเร็วอัตโนมัติตามที่กำหนดได้
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น และเทคโนโลยีใหม่ๆ ประกอบด้วย
(ใหม่) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางผสานระบบตรวจจับขอบถนน (Lane-keeping system with road-edge detection) ช่วยป้องกันรถออกจากเส้นทางในพื้นที่ชนบท
(ใหม่) ระบบช่วยหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive steer assist) ออกแบบให้ทำงานขณะ ขับขี่ในเมือง หรือบนทางด่วน โดยใช้เรดาร์และกล้องตรวจจับรถที่ขับด้วยความเร็วต่ำหรือหยุดนิ่งด้านหน้า และส่งแรงช่วยผู้ขับขี่บังคับพวงมาลัยหลบเพื่อลดความเสี่ยงจากการชน
(ใหม่) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (Reverse brake assist) ช่วยให้ถอยหลังเพื่อเข้าซองจอดหรือจอดในพื้นที่แคบๆ ด้วยการเตือนด้วยเสียงและภาพ ระบบสามารถตรวจจับรถ จักรยาน และคนเดินถนนที่ผ่านมาด้านหลังได้ และยังช่วยเบรกให้รถจอดสนิทได้ด้วยหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองอย่างทันท่วงที
(ใหม่) ระบบตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง (Blind spot information system with trailer coverage) ตรวจจับจุดบอดรอบคันรวมถึงส่วนต่อพ่วง โดยจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อระบบคาดว่าอาจเกิดอันตราย ระบบนี้รองรับเทรลเลอร์ที่มีความกว้างสูงสุด 2.4 เมตร และยาว 10 เมตร
ระบบป้องกันการชนเพื่อป้องกันการชนบริเวณทางแยก (Pre-collision assist with intersection functionality) ช่วยส่งแรงเบรกรถอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดผลกระทบจากอุบัติเหตุ ขณะที่ผู้ขับขี่กำลังเลี้ยวรถผ่านช่องทางที่มีรถวิ่งสวน เมื่อระบบประเมินว่าอาจเกิดการชนได้
ทั้งนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชั่นใหม่ มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นสปอร์ต , รุ่นไทเทเนียมพลัส และ รุ่นย่อยใหม่ล่าสุด คือ รุ่นแพลทินัม โดยจะวางจำหน่ายรุ่นย่อยต่างๆ แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างเหมาะสม โดยรายละเอียดอื่นๆ จะได้รับการเปิดเผยช่วงใกล้การเปิดตัวในประเทศนั้นๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี