นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวประเด็นเครือสหพัฒน์ขอปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ภายหลังตรวจเยี่ยมโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 18 : 4 มุมเมือง (ครั้งที่ 4)  ที่ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน การเคหะชุมชนธนบุรี 3 กรุงเทพมหานคร

นายจุรินทร์กล่าวว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (อาทิ มาม่า) ขายอยู่ปัจจุบันซองละ 6 บาท ได้มีการร้องขอปรับราคามาหลายเดือนแล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคา ที่มีข่าวเรื่องปรับราคาก่อนหน้านี้คือการปรับราคาระบบการบริหารจัดการภายในเป็นทอดๆ เช่น จากโรงงานไประบบค่าส่งไประบบค้าปลีก เป็นต้น แต่ปลายทางยังราคาซองละ 6 บาท สำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพื้นฐานทั่วไป ขณะนี้กรมการค้าภายในยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคา

“ซึ่งก็เห็นใจผู้ผลิตซึ่งทราบว่าหลังจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมากเพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ต้นทุนการผลิตอาหารเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ขอความร่วมมือให้ช่วยกันตรึงราคาสำหรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใช้เวลาตรึงราคามาหลายเดือน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการอนุญาตจะยังขอความร่วมมือตรึงราคาให้นานที่สุด เราก็เห็นใจผู้ผลิตเพราะกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องดูแลด้วยหากผลิตไปแล้วไม่มีผลกำไรหยุดผลิตปัญหาใหม่จะตามมาไม่ใช่ของแพงแต่เป็นปัญหาไม่มีของ ของขาดตลาด ความสมดุลควรอยู่ตรงไหน สำหรับผู้บริโภคเห็นใจทำอย่างไรถ้าต้องปรับขึ้นให้กระทบน้อยที่สุด แม้ราคาน้ำมันจะสูงขึ้นไปเยอะก็ตาม คือหลักที่ตนให้ไว้เป็นนโยบาย ซึ่งกรมการค้าภายในจะไปเจรจากับผู้ผลิตเพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ภายใต้วิน-วินโมเดล”รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์กล่าว

สำหรับโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 18 : 4 มุมเมือง (ครั้งที่ 4) ที่ศูนย์กีฬาบางขุนเทียน การเคหะชุมชนธนบุรี 3 กรุงเทพมหานคร เป็นกิจกรรมสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ที่ผ่านมาจัดมาแล้ว 3 ครั้ง คือครั้งที่ 1 ที่เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์กีฬาเคหะชุมชนห้วยขวาง ครั้งที่ 3 ที่สนามฟุตบอลเคหะชุมชนร่มเกล้า

โดยครั้งนี้มีสินค้ากว่า 1,800 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 75% มีสินค้าราคาพิเศษที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันเช่น หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 160 บาท เนื้อไก่น่องติดสะโพก 65 บาท/กก. น้ำตาลกิโลกรัมละ 18 บาท น้ำมันพืชขวดละ 59 บาท และไข่ไก่คละไซส์กลาง ฟองละ 3.16 บาท ข้าวหอมมะลิถุงละ 5 กิโลกรัม ราคาถุงละ 120 บาท ข้าวขาว 5% ถุงละ 89 บาท ตกกิโลกรัมละ 18 บาท และผลไม้ทุเรียนหมอนทอง จันทบุรี ในราคา 130 บาท/กก. มะม่วงงาช้างแดง ลำพูน ราคา 15 บาท/กก. เงาะโรงเรียน จังหวัดตราด ราคา 35 บาท/กก. และสับปะรดปัตตาเวีย จังหวัดอุตรดิตถ์ ราคา 10 บาท/กก. และหมวดสำคัญเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดสูงสุด 50% รวมทั้งชุดนักเรียนเครื่องแต่งกาย ลดสูงสุด 50% เป็นต้น โดยงานจะมีจนถึงวันที่ 12 มิ.ย.

“ขอเชิญมาจับจ่ายใช้สอยได้ และในต่างจังหวัดจะทยอยจัด ซึ่งดูความเหมาะสม ซึ่งเห็นใจพี่น้องเพราะช่วงนี้ค่าครองชีพสูงขณะเดียวกันที่ราคาสูงขึ้นเพราะราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเยอะและน้ำมันต้องนำเข้าทั้งหมด ซึ่งแพงทั้งโลกเหตุจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อข้าวของบ้านเราไปด้วย กระทรวงพาณิชย์พยายามช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเท่าที่จะทำได้อย่างดีที่สุดขอบคุณพ่อค้าแม่ขายและบริษัทผู้ผลิตทุกฝ่ายที่ช่วยกันร่วมมือนำสินค้ามาลดราคาบรรเทาความเดือดร้อนยามยาก”รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าว