ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ หวั่นธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด (Fed) ประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% แรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537 แถมคาด Fed จ่อขึ้นอีก 1.75% ในปีนี้ โดยทยอยขึ้นอีก 4 ครั้ง จะกลายเป็นสัญญาณเตือนฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ ทิสโก้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2565 (ตามเวลาประเทศไทย) ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติ 10 - 1 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% (75 bps) สู่ระดับ 1.50 - 1.75% ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นในอัตรามากสุดนับตั้งแต่ปี 2537 ถือว่าไปตามคาดการณ์ของตลาด หลังตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนพ.ค.ออกมาเร่งตัวขึ้นสวนกับที่คาดไว้
ขณะที่นาย Jerome Powell ประธานเฟด ระบุในแถลงการณ์หลังการประชุมว่า มีความเป็นไปได้ว่าในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 26 - 27 ก.ค.นี้ อาจปรับดอกเบี้ยขึ้นในอัตรา 75 bps อีกครั้ง หรืออาจปรับขึ้นอีก 50 bps
นายคมศรกล่าวว่า แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เข้มงวดขึ้นอย่างมากนับเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจให้ชะลอลงอย่างรวดเร็วจนอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ได้ ซึ่งต้องติดตามพัฒนาการตัวเลขเศรษฐกิจต่อจากนี้อย่างใกล้ชิด โดย Bloomberg Economics มองความเสี่ยงเกิด Recession ต้นปี 2567 มีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็น 72% จากเดือนเมษายนที่คาดว่ามีโอกาสเพียง 45% ที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอย
ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. พบว่า ตลาดปิดที่ 1,561.10 จุดลดลง 32.44 จุด (-2.04%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 97,738.02 ล้านบาท ขณะที่ตลาดกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะกดดันให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม และวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ศูนย์ฯได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 ลง เนื่องจากเดิมมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะโตได้ถึง 4%แต่เมื่อมีปัจจัยน้ำมันแพง ปริมาณการค้าโลกก็มีทิศทางย่อลง ทั้งนี้การที่ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร จะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย 0.1% ส่วนน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร กระทบ 0.2% ส่วนการเปิดประเทศ และให้ทำกิจกรรมได้ใกล้เคียงปกติ เช่น ผับบาร์ คาราโอเกะ จึงทำให้มีเงินสะพัดเข้ามาในระบบเศรษฐกิจประมาณ 3-5 หมื่นล้านบาทต่อเดือน จึงทำให้ครึ่งปีหลังมีเงินจากส่วนนี้เข้ามาในระบบเศรษฐกิจ พร้อมคาดว่า ในไตรมาส 3 จะมีนักท่องเที่ยวน่าจะเข้ามา 5 แสนคนต่อเดือนและในไตรมาสสุดท้ายคาดว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามา 5-8 แสนคนต่อเดือน
ดังนั้น ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจจึงปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 โตเหลือ 3.1% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อปลายปี 2564 ว่าเศรษฐกิจจะโตได้ถึง 4.2% จากปัจจัยลบต่างๆ ประกอบด้วยสงครามรัสเซีย ยูเครน ที่ทำให้ราคาพลังงานสิสค้าโภคภัณฑ์และอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อและยาวนานทำให้เกิดแผลเป็นทางเศรษฐกิจ ธนาคารกลางของประเทศหลักถูกกดดันให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัญหาชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาคการผลิตทั่วโลก เศรษฐกิจจีนมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นจากมาตรการ Zero COVID ทำให้การส่งสินค้าค่อนข้างมีปัญหา ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี