พาณิชย์กระตุ้นศก.ไทย
หนุนจัด2งานใหญ่แห่งปี
ผลักดันศิลปหัตถกรรม
ตั้งเป้าจำหน่าย140ล้าน
กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุน sacit เดินหน้าจัดงานใหญ่ “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” รวมงานหัตถศิลป์ไทยอันทรงคุณค่าและงานคราฟต์ร่วมสมัยที่ใหญ่ที่สุดแห่งปี ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 140 ล้านบาท ขณะที่การจัดงานได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี มีทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าชมงานและซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงการจัดงาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” ที่ฮอลล์ 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนาจัดโดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ sacit มีกำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ว่า มีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากถึง 650 ราย ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ สู่การเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย พัฒนาด้านการตลาดให้ผู้ประกอบการขยายกลุ่มผู้บริโภควงกว้างทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีเม็ดเงินหมุนเวียน สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงเรื่องของเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ที่ sacitได้ขานรับแนวคิด BCG ส่งเสริมและขับเคลื่อนสินค้าไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าหัตถศิลป์และไลฟ์สไตล์ที่มาร่วมจัดแสดงภายในงาน ล้วนเป็นผู้ประกอบการที่นำแนวทาง BCG มาปรับใช้ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการใช้วัสดุหลักจนถึงกระบวนการผลิตแล้วเสร็จ
สำหรับกิจกรรมภายในงาน sacitได้จัดเตรียมพื้นที่การเจรจาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มช่องทางการส่งออกและการจัดจำหน่าย เกิดความสะดวกรวดเร็ว, การมอบเกียรติบัตรแก่ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ประจำปี 2565 , การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โครงการเซรามิค สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โครงการกำลังใจ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่สะท้อนภูมิปัญญาและทักษะเชิงช่าง จากกลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม รวมถึงงานคราฟต์ร่วมสมัยจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นับหมื่นรายการ กว่า 650 ร้านค้า คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย มียอดจำหน่ายภายในงานกว่า 140 ล้านบาท
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งการส่งเสริมผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญของการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ และการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ และเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการในทุกระดับ ควบคู่ไปกับปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ตอบสนองเมกะเทรนด์ของโลก กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนให้มีการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ และผลิตภัณฑ์งานศิลปหัตถกรรมไทยด้วยการประยุกต์นำนวัตกรรมเทคโนโลยี และออกแบบดีไซน์ให้ทันสมัย เน้นมีฟังก์ชันการใช้งานเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น ช่วยลดต้นทุนในการผลิตการรับรองมาตรฐานให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย สอดคล้องกับตลาดเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งจะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้สินค้าของไทยโดดเด่นมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในงาน“อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และ “Crafts Bangkok 2022” ในวันที่ 10 กันยายน 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการจัดงานว่า ประชาชนยังคงให้การตอบรับเป็นอย่างดี มีจำนวนผู้เข้าชมงานอย่างคึกคักตลอดทั้งวันโดยนอกจากจะมีประชาชนคนไทยที่เข้าร่วมชมและเลือกซื้อสินค้าภายในงานแล้ว ยังพบว่ามีกลุ่มผู้เข้าชมงานชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าร่วมงานเพื่อเลือกซื้อสินค้าเป็นของฝากของขวัญ และยังเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่เข้ามาเจรจาธุรกิจ ถือเป็นการจัดงานที่สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทยได้ขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับภาพรวมของการจัดงาน พบว่า 10 สินค้าที่ได้รับการตอบรับสูงสุด มีดังนี้ 1. มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ (ผ้าไหม ผ้าฝ้าย) 2. หนึ่งหทัย อารีหทัยรัตน์ (เครื่องเงิน-ทอง) 3. คำปุน ศรีใส, มีชัย แต้สุจริยา (ผ้าไหม) 4. ศิริรัตน์ จิวานุวงศ์ (ผ้าไหม ผ้าฝ้าย) 5. วิยะดา บุญอ่อน จันทร์หอม (ผ้าไหม ผ้าฝ้าย) 6. สุนิศา ตินทอง (ผ้าไหม) 7. ธนูเดช เกิดวิเศษสิงห์ (เครื่องเงิน-ทอง) 8. รุ่งเรือง พิศโสระ (เครื่องเงิน-ทอง) 9. แสงอรุณ ไชยรัตน์ (ผ้าฝ้าย) และ 10. จีรนันต์ มูลน้ำอ่าง (ผ้าไหม ผ้าฝ้าย)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี