** ว่าด้วยเรื่องของยุทธศาสตร์ของชาตินั้น...ไม่ผิดหรอกถ้าจะพูดในกลุ่มประเทศอาเซียน ประเทศไทยประกาศตัวไว้หลายปีแล้วว่าจะเป็น “ครัวของโลก” และเป็น “ฮับของภูมิภาค” และอีกหลายๆ “ฮับ”...แต่ถ้าดูความคืบหน้าของการไปถึงจุดที่วางไว้นั้นไม่แน่ใจว่าจะพูดว่าไทยทำสำเร็จหรือเปล่า...เทียบกับประเทศ...อย่างเวียดนาม...ก็ได้ขึ้นแท่น “โรงงานของโลก” ไปแล้ว...สิงคโปร์...ไม่ต้องพูดถึงเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาคไปนานแล้ว...ล่าสุด สปป.ลาว...ก่อนหน้าประกาศจะเป็น “แบตเตอรี่ของภูมิภาค” ซึ่งก็สำเร็จไปแล้ว จนตอนนี้มียุทธศาสตร์ใหม่คือ “แลนด์ลิงก์”...จะพูดว่าไปถึงจุดไหน...ก็ต้องบอกว่า..รถไฟความเร็วสูง สปป.ลาว-จีน...เปิดใช้งานไปแล้ว...และมีแผนที่จะเชื่อมต่อกับเส้นทางขนส่งอื่นๆทั่วภูมิภาคและขยายไปถึงนอกภูมิภาคด้วย (ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน)...
หันมาดูที่ไทยบ้าง…เรื่องของการจะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อการขนส่งทั้งคนและสินค้า...เราไปถึงไหน...เอาแค่รถไฟฟ้าที่จะช่วยขนคนให้เดินทางสะดวกมากขึ้นและเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเข้ามาเพิ่มอีกหลังหมดการระบาดโควิด-19 นั้น...ไทยวางแผนจะสร้างรถไฟฟ้าถึง 14 เส้นทาง (ระยะทางรวม 554 กม.)...จะมี 2 สายที่จะเริ่มเปิดใช้ในปีนี้ คือโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว(Monorail) สายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) และจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบทั้งสองเส้นทางในปลายปี 2566
ส่วนรถไฟความเร็วสูง Hi-Speed Train สายตะวันออกเฉียงเหนือ เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา-หนองคายระยะทางรวมกว่า 600 กม. โดยระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-นครราชสีมา 253 กม. รัฐบาลบอกว่าจะเปิดให้บริการปี 2569...แต่ข้อเท็จจริงไม่รู้ตอนนี้สร้างได้ถึง 10 กม.หรือยัง ทั้งที่เริ่ม 4-5 ปีแล้ว....สำหรับระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย 356 กม. คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะเสนอ ครม. อนุมัติโครงการในช่วงปลายปี 2565 และจะเปิดให้บริการในปี2571...ก็ต้องถามตรงๆ ว่า “ทันกิน” ไหม.... ส่วนเส้นทางสายตะวันออก รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เชื่อมกรุงเทพฯ-EEC 220 กม. ตอนนี้รัฐเพิ่งจะส่งมอบพื้นที่ได้ครบ...ก็ต้องบอกว่าใช้เวลากว่า 2 ปี...ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย167 กม. ...ยังอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอ ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในปีนี้ และรัฐบาลคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2569 (เชื่อไหมว่าจะเป็นไปตามไทม์ไลน์นี้)....ส่วนรถไฟทางคู่จำนวน 4 โครงการ...ที่ดำเนินการก่อสร้างแล้ว ได้แก่ 1.ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 2.ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ 3.ช่วงนครปฐม-หัวหิน และ 4.ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร...คำถามสำคัญ...แต่ละโครงการคืบหน้าไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว....????
สำหรับการขนส่งทางน้ำ ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 คาดว่าเปิดให้บริการปี 2568 ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 คาดเปิดให้บริการปี 2569 ...ส่วนทางอากาศ รัฐบาลมีแผนพัฒนาท่าอากาศยานทั่วประเทศ...โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2คาดจะเปิดให้บริการได้ในเดือนตุลาคม 2565 นี้...การพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา...ก็ล่าช้ากว่ากำหนด...
ต้องย้ำว่า...เศรษฐศาสตร์วันหยุด...เห็นด้วยและสนับสนุนโครงการเหล่านี้เต็มที่...และอยากเกิดขึ้นมาก่อนหนานี้สัก 10 ปี...แต่ที่เขียนก็ด้วยความเป็นห่วงจริงๆ...ด้วยปัจจัยเสี่ยงจาก “ความแน่นอนทางการเมือง” ที่เกิดขึ้นตอนนี้และจะรุนแรงขึ้นในปีหน้า...จะทำให้ไทย “ตกขบวนรถไฟสายแห่งการพัฒนา”...และไทยจะกลายเป็น... “ประเทศที่ถูกนักลงทุนทั่วโลกทิ้งไว้ข้างหลัง”....
พงษ์พันธุ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี