นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ 171,731 คัน เพิ่มขึ้น 64.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากฐานต่ำของปีที่แล้วเพราะการล็อกดาวน์จากโควิด-19 ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2564 และเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 จำนวน 20.13% เพราะมีการผลิตรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ขายในประเทศ ส่งผลให้ 8 เดือนแรกปีนี้(มกราคม-สิงหาคม 2565) การผลิตรถยนต์รวมอยู่ที่ 1,184,800 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.53% โดยมั่นใจว่าการผลิตรถยนต์ตลอดปี 2565 จะได้ 1,750,000 คัน แบ่งผลิตเพื่อส่งออก 900,000 คัน และผลิตขายในประเทศ 850,000 คันตามเป้าหมายที่วางไว้
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนสิงหาคมมีทั้งสิ้น 68,208 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 61.7% จากฐานต่ำของปีที่แล้วจากการล็อกดาวน์และเพิ่มจากเดือนกรกฎาคม 2565 จำนวน 6.52% เพราะมีรถยนต์รุ่นใหม่และการได้รับชิ้นส่วนมากขึ้นในรถยนต์บางรุ่น รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นจากการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างประเทศเข้าประเทศสะดวกขึ้น และการส่งออกที่ยังเติบโต การจ้างงานเพิ่มขึ้น เกษตรกรและประชาชนมีรายได้ดีขึ้น และ 8 เดือนแรกปีนี้ รถยนต์มียอดขาย 559,537 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 19.61%
ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนสิงหาคม 2565 จำนวน 73,325 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 11.75% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2564 คิดเป็น 23.09% เพราะฐานต่ำของปีที่แล้วส่งผลให้ 8 เดือนแรกปีนี้ส่งออกได้ 606,055 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.40% รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์ 8 เดือนแรกปีนี้ทั้งเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 551,483.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.80%
“เป้าหมายทั้งปีที่เราปรับใหม่ล่าสุดที่ลดการผลิตลง 50,000 คัน มาอยู่ที่ 1,750,000 คัน ดูแนวโน้มที่เหลือก็คิดว่าน่าจะเป็นไปได้อยู่โดยมีปัจจัยบวกจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่เพิ่มขึ้นจาก 1 ตุลาคมที่รัฐกำหนดให้โควิด-19 เป็นโรคที่แค่เฝ้าระวังจากเดิมเป็นโรคติดต่ออันตราย การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่จะช่วยกระตุ้นรายได้ประชาชน รวมถึงการประกันราคาพืชเศรษฐกิจของรัฐ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆขณะที่แนวโน้มรถยึดเข้าสู่ลานประมูลเพิ่มขึ้นและตัวเลขเช่าซื้อรถค้างชำระแตะ 154,000 ล้านบาท คิดเป็น 13% ของสินเชื่อเช่าซื้อนั้นมองว่าเป็นผลกระทบตั้งแต่ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาและมีสัดส่วนที่ไม่ได้สูงมากนัก ขณะที่ปัจจุบันแนวโน้มหลายๆ อย่างเริ่มคลี่คลายแล้ว” นายสุรพงษ์กล่าว
ในส่วนการส่งออกนั้นคงจะต้องติดตามปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิพ) อย่างใกล้ชิด ที่ล่าสุดอาจเป็นข่าวดีหลังจากที่อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีการส่งมอบลดลง อาจทำให้รถยนต์จะได้รับชิพในบางส่วนเพิ่มขึ้นแทนได้หรือไม่ซึ่งกำลังติดตามประกอบกับหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ามียอดขายดีขึ้น แต่ปัจจัยลบที่ต้องพิจารณาประกอบคือภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจถดถอย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งการสู้รบรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดในไต้หวันและตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ยอดรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนใหม่(ป้ายแดง)เดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ 1,184 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 220 คัน หรือเพิ่มขึ้นเป็น 438.2% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่โดยได้รับอานิสงส์จากการที่รัฐบาลได้ส่งเสริมการใช้ ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565ยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) สะสม มีจำนวนทั้งสิ้น22,374 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 146.95% ประเภทแบบผสม (HEV) รถยนต์นั่งไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก(PHEV) 239,110 คัน เพิ่มขึ้น 27.88% เป็นต้น