นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อท.
ได้ประมาณการการผลิตรถยนต์ในปี 2567 อยู่ที่ 1,900,000 คัน มากกว่าปี 2566 ซึ่งมี 1,841,663 คันเพิ่มขึ้น 3.17% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,150,000 คัน เท่ากับ 65% ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 750,000 คัน เท่ากับ 35% ของยอดการผลิตทั้งหมด
“การผลิตเพื่อการส่งออก 1.15 ล้านคันลดลงจากปีที่ผ่านมา 0.52% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจขยายตัวเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อการส่งออกลดลงและเงินเฟ้ออาจสูงขึ้น อีกทั้งตลาดทั้งในและต่างประเทศเกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในสินค้าประเภทเดียวกัน และคู่แข่งเกิดขึ้นในภูมิภาคเพิ่มขึ้น รวมทั้งนโยบายของประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก เช่น การขึ้นภาษีสรรพสามิตในรถยนต์บางประเภทในลาว”นายสุรพงษ์กล่าว
แต่ยังมีปัจจัยบวกจากไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะซึ่งขนส่งสินค้าและคนเพื่อส่งออกไปทั่วโลกกว่าหนึ่งร้อยประเทศจึงอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากจากเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงประเทศจีนเปิดประเทศอาจส่งผลให้การค้าโลกและการท่องเที่ยวเติบโตเป็นผลดีต่อการส่งออกของหลายประเทศดีขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทย อีกทั้งการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์คลี่คลายลงมากส่งผลให้การผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอาจมีการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า คำสั่งซื้อสินค้าจากประเทศคู่ค้า สหรัฐฯ, ยุโรป, จีน เพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพ เช่น กลุ่มอ่าวอาหรับ GCC และอัตราดอกเบี้ยอาจอยู่ในช่วงขาลงทำให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้น เป็นต้น
ขณะที่ประมาณการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 750,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 685,628 คัน หรือเพิ่มขึ้น 9.39% เนื่องจากมีการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาไทย ทำให้เกิดการเชื่อมโยง Supply Chain ของอุตสาหกรรม รวมทั้งความต้องการสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นทั่วโลกจากกฎระเบียบและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมทั้งเริ่มมีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เป็นต้น
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของปัจจัยลบยังคงต้องจับตามอง คือ หนี้ครัวเรือนสูงหนี้สาธารณะสูง ค่าครองชีพสูง อัตราดอกเบี้ยสูงส่งผลกระทบต่ออำนาจซื้อของประชาชนลดลง ทำให้ยอดขายอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งมี supply chain หลายอุตสาหกรรมชะลอตัวลง ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้รายได้คนงานก่อสร้างและโรงงานลดลง รวมถึงเรื่องของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ล่าช้าออกไปราวแปดเดือนทำให้การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไปด้วยส่งผลให้การลงทุนการจ้างงานของเอกชนล่าช้าออกไปเศรษฐกิจจึงเติบโตในระดับต่ำ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของภัยธรรมชาติที่คาดไม่ถึงอาจจะกระทบต่อผลผลิตและรายได้เกษตรกร ความขัดแยังระหว่างประเทศอาจขยายตัวและเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่จะส่งผลให้ราคาพลังงาน สินค้า และวัตถุดิบสูงขึ้น และการส่งออกสินค้าต่างๆ ในปีนี้อาจลดลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงส่งผลการผลิตการลงทุนการจ้างงานลดลง อำนาจซื้อลด เป็นต้น
สำหรับภาพรวมรถยนต์ที่ผลิตในปี 2566 (มกราคม-ธันวาคม 2566) มีทั้งสิ้น 1,841,663 คันลดลง 2.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1,156,035 คันเพิ่มขึ้น 11.44% จากช่วงเดียวกันปี 2565 คิดเป็น 62.77% ของยอดการผลิตทั้งหมด ขณะที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศได้ 685,628 คัน ลดลง 18.98% จากช่วงเดียวกันปี 2565 หรือคิดเป็น 37.23% ของยอดการผลิตทั้งหมดขณะที่ในปี 2566 รถยนต์มียอดขาย 775,780 คัน ลดลง8.67% จากช่วงเดียวกันปี 2565
“ยอดขายรถยนต์ที่ลดลงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง และเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากผลผลิตอุตสาหกรรมที่ลดลงตามการส่งออกที่ลดลง โรงงานจึงลดกะทำงานและลดการทำงานล่วงเวลาคนงานขาดรายได้ ประกอบกับค่าครองชีพและอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้เหลือเงินไม่เพียงพอในการใช้จ่ายอย่างอื่นได้ อีกทั้งการลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐก็ยังต้องรองบประมาณรายจ่ายปี 2567 ที่ล่าช้าออกไป”นายสุรพงษ์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี