นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อผลักดันและขยายการส่งออกสินค้าและบริการของไทยเข้าสู่ตลาดที่มีศักยภาพ ล่าสุดกรมฯ ได้กำหนดจัดงานแสดงสินค้า Top Thai Brands 2023 ณ กรุงธากา บังกลาเทศ ระหว่างวันที่ 2-5 มีนาคม 2566 เพื่อเร่งฟื้นฟูการส่งออกของไทยในตลาดบังกลาเทศ ซึ่งนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสำคัญแห่งหนึ่งของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายและการเดินทางระหว่างประเทศสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ
บังกลาเทศนับเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดียและปากีสถาน ด้วยจำนวนประชากรกว่า 166 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นชนชั้นกลางถึงระดับสูงราว 20 ล้านคน มีกรุงธากาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ และประการสำคัญ ปัจจุบันบังกลาเทศเตรียมยกระดับความเจริญทางเศรษฐกิจจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุดขึ้นสู่ประเทศกำลังพัฒนาภายในปี 2570 ทำให้มี
นโยบายเร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ทำให้มีความต้องการนำเข้าสินค้าต่างๆ อาทิ สินค้าอุปโภค-บริโภค ของใช้และของตกแต่งบ้าน เครื่องมือช่าง ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม วัตถุดิบตั้งต้นสำหรับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เป็นต้น จึงนับเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยในการส่งออกสินค้า หรือดำเนินธุรกิจในบังกลาเทศ เพื่อเติมเต็มความต้องการอุปโภคบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
สำหรับการจัดงาน Top Thai Brands 2023 ในครั้งนี้ กำหนดจัดคูหาแสดงสินค้าและบริการของผู้ประกอบการไทย ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มสำเร็จรูป (เน้นสินค้าฮาลาล) เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน ของใช้ภายในบ้าน ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม (อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องปรับอากาศ ยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์)เครื่องมือช่าง วัตถุดิบตั้งต้นสำหรับอุตสาหกรรม (เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ แร่) และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม รวมทั้งจะมีการจัดพื้นที่อเนกประสงค์ เพื่อรองรับการจัดกิจกรรมนัดหมายเจรจาการค้า การสาธิตปรุงอาหารไทย และการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยเพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานด้วย
การเข้าร่วมงาน กรมฯ จะรับผิดชอบการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายบางส่วนตามเงื่อนไขที่กำหนด ได้แก่ ค่าเช่าพื้นที่ ค่าออกแบบตกแต่งสถานที่และคูหามาตรฐานค่าจัดนัดหมายเจรจาธุรกิจ และค่าสาธารณูปโภค โดยผู้ประกอบการรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้าค่าธรรมเนียม/ภาษี ค่าตรวจลงตรา (Visa)ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
“กรมขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจร่วมจัดแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจด้วยตนเอง ณ กรุงธากา บังกลาเทศ พิจารณาสมัครเข้าร่วมงานแสดงสินค้าดังกล่าว โดยสามารถสมัครผ่านระบบออนไลน์ของกรมฯ ได้ที่เว็บไซต์ https://drive.ditp.go.th ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 23 มกราคม 2566 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1 โทร. 0-2507-8209”นายภูสิตกล่าว