ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-14 กรกฎาคม 2566 พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 45,749.34 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)ขายสุทธิ 6,614.61 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 115,663.88 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ(รายย่อย)ซื้อสุทธิ 76,529.15 ล้านบาท

ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยกลับมาปิดเหนือ 1,500 จุดได้อีกครั้ง หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบเกือบตลอดสัปดาห์ระหว่างรอติดตามความคืบหน้าทางการเมือง ก่อนจะดีดตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ แม้สถานการณ์การเมืองในประเทศจะยังคงมีปัจจัยที่ต้องติดตามต่อเนื่องหลังสิ้นสุดการโหวตนายกรัฐมนตรีในรอบแรก โดยหุ้นไทยมีแรงหนุนเช่นเดียวกับหุ้นภูมิภาคท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดใกล้จะยุติวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อชะลอตัวลงมากกว่าคาด นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อคืนหุ้นบิ๊กแคปในกลุ่มพลังงานและเทคโนโลยี รวมถึงกลุ่มแบงก์ก่อนการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/66

ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,517.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.84% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อ-ขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 40,927.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.10% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.79% มาปิดที่ระดับ 461.71 จุด

สำหรับสัปดาห์นี้ (17-21 กรกฎาคม) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,505 และ 1,485 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,535 และ 1,545 จุด ตามลำดับ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศและผลประกอบการไตรมาส 2/66 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์