นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะไม่ต่อภาษีน้ำมันดีเซลจากขณะนี้อยู่ที่ลิตรละ 32 บาทตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.นี้เป็นต้นไปนั้นจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคต่างๆ ของผู้ผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นด้วยนั้นขณะนี้ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ซึ่งกรมการค้าภายใน มีการดูแลปัญหาในเรื่องของต้นทุนต่างๆของผู้ประกอบทั้งระบบอยู่แล้ว โดยหากรายการสินค้าใดได้รับผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตจะต้องส่งเรื่องมายังกรมการค้าภายในได้วิเคราะห์และพิจารณาถึงความเหมาะสมก่อนที่จะให้อนุมัติให้ปรับราคาสินค้าต่างๆได้
“เท่าที่ได้รับรายงานจากกรมการค้าภายในยังไม่มีรายการสินค้าไหนขอปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะการคำนวณสินค้าแต่ละรายการโดยสินค้าแต่ละชิ้นจะมีต้นทุนต่างๆ เป็นองค์ประกอบจะไม่ใช่เฉพาะตัวรายการสินค้าที่ได้รับผลกระทบต่อต้นทุนราคาน้ำมันดีเซลอย่างเดียว ดังนั้น หากรายการสินค้าใดเห็นว่ากระทบต่อต้นทุนมากก็จะให้ปรับขึ้นตามต้นทุนที่แท้จริง ไม่ใช่จะให้ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันเพียงด้านเดียว ซึ่งผู้ผลิตต่างๆ ก็เข้าใจตรงนี้และหากเห็นว่าได้รับผลกระทบต่อต้นทุนผลิตทางกรมการค้าภายในจะพิจารณาอีกครั้ง โดยทุกฝ่ายจะต้องอยู่ร่วมกันได้และเป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์เน้นย้ำทุกอย่างต้องอยู่ร่วมกันได้บนพื้นฐานทุกฝ่ายอยู่ร่วมกัน แต่หากผู้ผลิตสามารถแบกรับภาระต้นทุนได้ก็จะขอให้ช่วยตรึงสินค้าไปก่อนเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเดือดร้อนมากจนเกินไป”
นายกีรติกล่าว
อย่างไรก็ตาม สินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศเป็นสินค้าควบคุมจะมีอยู่ 56 รายการแบ่งเป็นสินค้า 51 รายการและบริการอีก 5 ราย โดยเป็นสินค้าที่ครอบคลุมต่อการครองชีพของประชาชน โดยจะดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากสินค้าควบคุมยังมีการติดตามดูแลสินค้าต่างๆอีกกว่า 290 รายการ ที่กรมการค้าภายในเฝ้าดูแลและติดตามทุกสัปดาห์รวมทั้งยังส่งทีมออกตรวจสอบทั้งตลาดสด ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศโดยร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศออกตรวจสอบสินค้าอุปโภคและบริโภคอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ด้านนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยเผยถึงผลกระทบ หลังกระทรวงการคลังไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 5 บาท ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค. 2566 ว่าเมื่อต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 5 บาทต่อลิตร ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับทุกภาคส่วนแน่นอน ทั้งประชาชน ภาคเกษตร และผู้ผลิต เพราะทำให้ต้นทุนต่างๆ ปรับเพิ่มสูงขึ้น เมื่อดีเซลขึ้นราคาจากปัจจุบันอยู่ที่ 32 บาท/ลิตร ภาคขนส่งก็ต้องปรับขึ้นตามไปด้วย โดยจะเป็นขั้นบันไดตามที่เคยแจ้งไว้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ว่าหากดีเซลขึ้น 1 บาท/ลิตร ค่าขนส่งจะปรับขึ้น 3% ทันที เช่น ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 35 บาท/ลิตร เมื่อลดลงมาที่ 32 บาท/ลิตร ค่าขนส่งก็ปรับลดลงถึง 9%และหากค่าน้ำมันรถลงมาที่ 31 บาท/ลิตรค่าขนส่งก็ต้องลดลงอีก 3% ขณะที่ลูกค้ายอมรับได้ เพราะช่วงน้ำมันลงเราก็ปรับราคาลงตาม MOU ที่ได้ทำร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เสนอว่าช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล การยกเลิกลดภาษีสรรพสามิตดีเซล ควรรอไปก่อน เพื่อให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดูแลรับช่วงต่อ เพราะหากปล่อยให้ขึ้นราคาดีเซลสูงถึง 5 บาท/ลิตร สินค้าต่างๆ ก็ต้องปรับขึ้นราคาตามไปด้วย เพราะน้ำมันดีเซลคือต้นทุนของการผลิตสินค้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้สินค้าขึ้นราคาถึง 10% แต่เมื่อราคาน้ำมันลงราคาสินค้ากลับไม่ลงตามไปด้วย
“ดังนั้น ควรชะลอเพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้เรียบร้อย ถึงตอนนั้นจะปรับหรือจะเปลี่ยนราคาอย่างไร จะได้มีความชัดเจน แต่ทุกวันนี้เรายังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าราคาดีเซลจะอยู่ที่ตรงไหนกันแน่ ซึ่งสร้างความตระหนกให้กับประชาชนทั่วไปอีกทั้งทุกวันนี้ค่าแรงก็ยังไม่ได้ขึ้น ราคาน้ำมันก็จะขึ้นอีก 4-5 บาท/ลิตร จะส่งผลกระทบหนักแน่นอน และอยากเสนอรัฐบาลใหม่ให้กลับไปดูโครงสร้างราคาน้ำมัน เพื่อให้คนไทยได้ใช้น้ำมันในราคาที่เหมาะสม สอดคล้องกับราคาหน้าโรงกลั่น ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศ ไม่ใช่การอิงราคาจากโรงกลั่นในต่างประเทศ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี