นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเดือนมิถุนายน 2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 7,626 ราย เพิ่มขึ้น 2.54% จากเดือนพฤษภาคม 2566 และเพิ่มขึ้น 14.49% จากเดือนมิถุนายน 2565 มีทุนจดทะเบียน 39,739.72 ล้านบาท ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
ส่วนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2566มีจำนวน 47,286 ราย เทียบกับครึ่งปีแรก 2565 จำนวน 40,301 ราย เพิ่มขึ้น 6,985 ราย หรือเพิ่มขึ้น 17.33% มีทุนจดทะเบียน 428,647.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% ธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนมิถุนายน 2566 มีจำนวน 1,659 ราย เพิ่ม 34.44%จากเดือนพฤษภาคม 2566 และเพิ่มขึ้น 13.40%จากเดือนมิถุนายน 2565 มีทุนจดทะเบียน 6,295ล้านบาท ธุรกิจสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
โดยธุรกิจเลิกประกอบกิจการในช่วงครึ่งปีแรก2566 มีจำนวน 7,097 ราย เพิ่มขึ้น 18% จากครึ่งปีแรก 2565 มีทุนจดทะเบียน 49,604.72 ล้านบาท ลดลง 15% ธุรกิจสูงสุด 3 อันดับแรกคือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร
ทั้งนี้ มีธุรกิจที่ดําเนินกิจการอยู่ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 จำนวน 882,055 ราย มีทุนจดทะเบียน 21.41 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 203,488 รายคิดเป็น 23.07% บริษัทจำกัด 677,156 ราย คิดเป็น76.77% และบริษัทมหาชนจำกัด 1,411 ราย คิดเป็น 0.16%
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า การจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนมิถุนายน 2566 เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่สูงสุดในรอบ 10 ปี (มิถุนายน 2557-2566)เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน หากพิจารณาการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ก็สูงสุดในรอบ 10 ปีเช่นกัน (ปี 2557-2566) ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ส่วนทุนจดทะเบียนในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ที่เพิ่มขึ้น 53% เพราะเดือนมีนาคม2566 มีการควบรวมกิจการในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและธุรกิจประกันวินาศภัย รวมทั้งมีการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งและโรงแรม
ทั้งนี้หากดูรายธุรกิจที่จัดตั้งใหม่ในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 81.20% คิดเป็น 7.99% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมด และธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 257% จากการเดินทางท่องเที่ยวที่คึกคัก และธุรกิจขายส่งข้าวเปลือก
และธัญพืช เพิ่มขึ้น 254% เป็นผลจากนโยบายBCG Model ที่ส่งเสริมการลดต้นทุนผลิตข้าวรักษ์โลก
“กรมเคยประเมินไว้เดือนที่แล้วว่ายอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 2566 จะอยู่ที่ 42,000-45,000 ราย ทำได้จริง 47,286 ราย และทั้งปี 2566อยู่ที่ 75,000-78,000 ราย แต่จากแนวโน้มการเติบโตและทิศทางการจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่ดีขึ้น กรมได้ปรับประมาณการใหม่ ครึ่งปีหลัง 2566 คาดว่าจะจัดตั้งธุรกิจใหม่ 36,000-43,000 ราย และทั้งปี 2566 อยู่ที่ 83,000-90,000 ราย” นายทศพล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี