นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) เปิดเผยถึงผลการจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าฮาลาลและสินค้าศักยภาพอื่นเดินทางไปเจรจาการค้า ณ ซาอุดีอาระเบีย และอียิปต์ ระหว่างวันที่ 25-31 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ กรมได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ และกรุงไคโร จัดเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าของซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ เพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าในกลุ่มสินค้าอาหารฮาลาล ผลไม้ สินค้าใช้ในบ้าน และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ การเจรจาการค้า ณ เมืองเจดดาห์ จัดขึ้นที่ The Venue Jeddah Hotel วันที่ 26 สิงหาคม 2566 โดยมีนายกิตินัย นุตกุล กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานSaudi-Thai.Business Matching 2023 มีผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลและสินค้าศักยภาพอื่น จำนวน 26 บริษัท เดินทางไปเข้าร่วมเจรจาการค้า และมีผู้นำเข้า นักธุรกิจซาอุดิอาระเบียกว่า 200 ราย ให้ความสนใจเข้าร่วมมีมูลค่าสั่งซื้อภายในงานทั้งสิ้น 5,250,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 183,750,000 บาท (1 USD = 35 บาท) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีความพึงพอใจในภาพรวมการจัดงานกว่า 97%

ส่วนที่กรุงไคโร ได้จัดกิจกรรมเจรจาการค้า ในวันที่ 29 สิงหาคม 2566 ณ Cairo Marriott Hotel โดยนายพุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร เป็นประธาน
ในพิธีเปิดงาน Thai-Egyptian.B2B.Matching Event 2023 มีผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลและสินค้าศักยภาพอื่น จำนวน 25 บริษัท เดินทางไปเข้าร่วมเจรจาการค้า และมีผู้นำเข้านักธุรกิจอียิปต์ กว่า 100 ราย ให้ความสนใจเข้าร่วม มีมูลค่าสั่งซื้อภายในงาน 2,209,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 77,315,000 บาท (1 USD = 35 บาท) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการมีความพึงพอใจในภาพรวมการจัดงานกว่า 98%

“สรุปการจัดงานที่ซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ มีมูลค่าสั่งซื้อภายในงาน แบ่งเป็นสั่งซื้อ ทันที 364,000 เหรียญสหรัฐ สั่งซื้อภายใน 1 ปี 7,095,000 เหรียญสหรัฐ รวมทั้งสิ้น 7,459,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยกว่า 261 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ สินค้าสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ชิ้นส่วนรถยนต์ ผลไม้สดและแปรรูป และสินค้าอาหารฮาลาล ตามลำดับ และผู้ประกอบการมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรม เฉลี่ยที่ 98%”
นายภูสิตกล่าว

นอกจากนี้ กรมได้ลงพื้นที่สำรวจตลาดและย่านการค้าสำคัญในเมืองเจดดาห์ และกรุงไคโร โดยแบ่งเป็น 3 เส้นทางตามกลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มสินค้าอาหารฮาลาล กลุ่มสินค้าวัสดุก่อสร้างและเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ เพื่อสำรวจสินค้าที่มีจำหน่ายในอยู่ในท้องตลาด การ Knock Door แนะนำสินค้าไทยให้กับผู้นำเข้าในย่านการค้าสำคัญ และการนัดหมายเข้าพบกับผู้นำเข้ารายสำคัญของซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ อาทิ ผู้บริหาร Luluhypermarket ของซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ เป็นต้น