นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาอย่างเป็นทางการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ตนและนายกัจจกธุเค นลิน รุวันชีวะ เฟอร์นานโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า พาณิชย์ และความมั่นคงทางอาหาร ของศรีลังกา ได้ร่วมลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ศรีลังกา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 ณ สำนักเลขาธิการประธานาธิบดีศรีลังกา กรุงโคลัมโบ โดยมีนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีศรีลังการ่วมเป็นสักขีพยาน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้สรุปผลการเจรจา FTA ไปเมื่อเดือนธันวาคม 2566 โดยความตกลงดังกล่าว นับเป็น FTA ฉบับที่ 15 ของไทย และฉบับแรกภายใต้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินทำให้ปัจจุบันไทยมี FTA รวม 15 ฉบับ กับ 19 ประเทศ และคาดว่า FTAไทย-ศรีลังกา จะมีผลใช้บังคับได้ภายในปี 2567
กระทรวงพาณิชย์จะเร่งจัดสัมมนาประชาพิจารณ์ FTA ไทย-ศรีลังกา เพื่อรวบรวมความเห็นจากทุกภาคส่วนก่อนนำเสนอต่อรัฐสภา เพื่อขอความเห็นชอบและได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งจัดสัมมนา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดตลาดการค้าสินค้า บริการ และการลงทุนภายใต้ FTAไทย-ศรีลังกา แก่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนไทย ได้เตรียมใช้ประโยชน์ทันที ที่ความตกลงฉบับนี้มีผลใช้บังคับ
สำหรับ FTA ไทย-ศรีลังกา ได้มีการเปิดตลาดการค้าสินค้ากว่า 85% ของจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด เป็นระดับการเปิดตลาดที่เท่าเทียมกันของทั้งสองฝ่าย และมีระยะเวลาในการลด ยกเว้นอากรในเวลา 16 ปี นับจากความตกลงมีผลบังคับใช้ โดยสินค้าที่ศรีลังกาจะยกเว้นอากรให้ทันทีคิดเป็น 50% ของจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด หรือกว่า 4,000 รายการ อาทิ ยานยนต์และชิ้นส่วน ปุ๋ย หนังเทียม เคมีภัณฑ์ เยื่อกระดาษและกระดาษคราฟท์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ปลาซาดีนปลาแซลมอนกระป๋อง อาหารสัตว์ กุ้งแช่เย็น โคกระบือมีชีวิต และเครื่องเงิน
ส่วนภาคบริการ ศรีลังกาเปิดให้ไทยเข้าไปถือหุ้นในสาขาบริการได้ถึง 100% ใน 50 สาขาย่อย อาทิ บริการโรงแรมและร้านอาหาร บริการขนส่งทางทะเล บริการนายหน้าและตัวแทนประกันภัยบริการแฟรนไชส์บริการโทรคมนาคม บริการสิ่งแวดล้อม บริการโฆษณา และบริการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ และภาคการลงทุน ศรีลังกาเปิดให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนโดยถือหุ้นได้ 100% ใน 35 สาขา อาทิ การแปรรูปอาหาร (ผลไม้ ผัก ถั่ว มันฝรั่ง) การผลิตสิ่งทอ (ยกเว้นทอผ้าด้วยมือ) การผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ การผลิตยาและเวชภัณฑ์ การผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และทันตกรรม
แม้ศรีลังกาจะเป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรเพียง 22 ล้านคนแต่มีจุดเด่นด้านที่ตั้ง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการขนส่งทางเรือของโลก เชื่อมต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป ประกอบกับเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เช่น แร่รัตนชาติ แร่แกรไฟต์ และสัตว์ทะเล เป็นต้น และถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ศรีลังกาจะประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ก็เริ่มฟื้นตัวและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2566 การค้าระหว่างไทยและศรีลังกามีมูลค่า 415.30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า 291.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากศรีลังกา มูลค่า 124.13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูปยาง ผ้าผืน ยางพารา และเคมีภัณฑ์ สินค้านำเข้าสำคัญจากศรีลังกา อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และกาแฟ ชา เครื่องเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี