ออมสิน-BAMทุ่มพันล้าน  ตั้งARI-AMCบริหารNPLรายย่อย5แสนราย

ออมสิน-BAMทุ่มพันล้าน ตั้งARI-AMCบริหารNPLรายย่อย5แสนราย

วันพฤหัสบดี ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.15 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ธนาคารออมสิน โดยนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ได้ร่วมลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ ARI-AMC โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น1 พันล้านบาท โดยสัดส่วนการถือหุ้นฝ่ายละ 50%เท่ากัน มีระยะเวลาดำเนินการไม่เกินกว่า 15 ปี นับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการ โดยดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ในระยะแรกจะรับซื้อและรับโอนหนี้จากธนาคารออมสินเพียงแห่งเดียวก่อน เป็นการรับซื้อหนี้สินเชื่อทั่วไปทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน เป็นกลุ่มลูกหนี้สินเชื่อรายย่อย SMEs รวมถึงหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ที่มีสถานะ NPLs หนี้สูญ รวมถึง NPA ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ครอบคลุมลูกหนี้ที่ยังไม่ดำเนินคดี และดำเนินคดีแล้ว ที่ยังมีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเปิดเผยว่า จากปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศ เป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs และประชาชนจำนวนมากขาดสภาพคล่องไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ จนกลายเป็นหนี้เสีย (NPLs) และเพื่อแก้ปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของลูกหนี้สถาบันการเงินเฉพาะกิจ(SFIs) โดยเพิ่มความคล่องตัวให้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้ได้มากขึ้น เนื่องจากสามารถโอนหนี้บางส่วนของ SFIs ไปยังบริษัทร่วมทุนที่จัดตั้งขึ้น ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการหนี้โดยเฉพาะ ธนาคารออมสิน กับ BAM จึงได้ร่วมกัน จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด หรือ ARI-AMC มีวัตถุประสงค์หลักเป็นธุรกิจเพื่อสังคมและโดยมีกำไรในระดับที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งที่เป็น NPLs และ NPA ได้เข้ากระบวนการปรับโครงสร้างหนี้หรือไกล่เกลี่ยหนี้ มีโอกาสหลุดพ้นจากการเป็นผู้เสียประวัติทางเครดิตได้เร็วขึ้น กลับมาเป็นสถานะหนี้ผ่อนปกติหรือหนี้ปิดบัญชีจะทำให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ในอนาคต และลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบได้


ทั้งนี้ ARI-AMC จะมีรับซื้อหนี้ในราคายุติธรรม และและจะบริหารโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ลูกหนี้จะได้รับสอดคล้องจากความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นและหลากหลาย อาทิ การปรับลดเงินต้น ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ หรือการตัดหนี้บางส่วนให้กับลูกหนี้ ฯลฯ โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567จะสามารถเริ่มรับซื้อและรับโอนหนี้จากธนาคารออมสิน ก้อนแรก ประมาณ 1.4 แสนราย คิดเป็นวงเงิน ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายของโครงการที่นี้ที่จะช่วยเหลือลูกหนี้จำนวนกว่า 500,000 บัญชี หรือคิดเป็นมูลหนี้เงินต้นกว่า 45,000 ล้านบาท และในอนาคตจะขยายการดำเนินการให้ครอบคลุมการรับซื้อหนี้ประเภทอื่น รวมถึงหนี้ของ SFIs อื่น ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ภายในปี 2568

“คาดว่าจะมีลูกหนี้ 70-80% จาก 5 แสนราย ที่หลุดจากการเป็นหนี้เสียได้จากโครงการนี้ ส่วนเงินทุนเริ่มที่ 1 พันล้านบาท เพียงพอต่อการดำเนินการในขั้นแรกและเรายังมีสินเชื่อพิเศษสำหรับ ARI-AMC สำหรับการขยายพอร์ตหรือซื้อหนี้เสีย จากสถาบันการเงินของรัฐแห่งอื่นเข้ามาบริหารเพิ่มเติมในอนาคต” นายวิทัยกล่าว

ด้าน นายบัณฑิต อนันตมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า ชื่อมั่นว่าเรามีความพร้อมทั้งในด้านประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของบุคลากร ตลอดจนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การให้บริการลูกค้าในทุกช่องทางอย่างครบวงจร และการมีเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ จะช่วยให้ความร่วมมือในการผลักดันการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนลุล่วงไปได้ด้วยดี อีกทั้งทำให้บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้น สามารถตอบโจทย์การเป็นธุรกิจเพื่อสังคม โดยที่ยังสามารถบริหารจัดการให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีได้

ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เวลาติดแบล็กลิสต์ คือ 5 ปี บวกกับอีก 3 ปี ที่เก็บข้อมูลไว้ รวมกันเป็นติดสถานะมีประวัติค้างชำระหนี้ 8 ปี ถือว่ายาวเกินไป ดังนั้น คงต้องไปดู โดยจะลดในส่วนของแบล็กลิสต์ 5 ปีแรกให้เร็วขึ้น เช่น เหลือติดแบล็กลิสต์แค่ 2 ปี บวกกับ 3 ปี หรือเหลือ 1 ปี บวกกับ 3 ปี ซึ่งกฎหมายติดแบล็กลิสต์ อยู่ระหว่างการพิจารณาในส่วนของ กฎหมายว่าจะร่นระยะเวลาการลงได้หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top