รัฐบาลเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต"“พิชัย"แย้มเตรียมโอนสดๆเข้าบัญชีกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน 20 ก.ย.หวังเติมกำลังซื้อให้กับรายย่อย พร้อมประกาศปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบกระตุ้นเศรษฐกิจ

9 ก.ย.67 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวระหว่างร่วมงานสัมมนา “SHAPING TOMORROW” จัดโดยสถาบันวิยาการตลาดทุน ถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทว่า รัฐบาลจะสามารถเริ่มดำเนินการกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน และกลุ่มผู้พิการก่อนเป็นอันดับแรก รวมจำนวนกว่า 14.5 ล้านคน โดยคาดว่าจะเม็ดเงินโอนถึงมือคนกลุ่มนี้ วันที่ 20 ก.ย.เป็นต้นไป ส่วนรายละเอียดขอให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นากยกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ ในวันที่ 12 ก.ย.67

"รัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตได้แน่นอน สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ จำนวน 13.5 ล้านคน และผู้พิการอีก 2.2 ล้านบาท เมื่อหักความซ้ำซ้อนของทั้ง 2 กลุ่มออกจากกัน คาดว่า จำนวนประชาชนที่ได้รับเงินก่อนเป็นอันดับแรกจะอยู่ที่ประมาณ 14.5 ล้านคน โดยปรับรูปแบบมาเป็นการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้ได้รับเงินแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ"นายพิชัย กล่าว

สำหรับกระแสเงินทุนของต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมามูลค่ามากกว่าแสนล้านบาทนั้น เป็นเพราะต่างชาติมีความเชื่อมั่น มีการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างรวดเร็ว เชื่อมั่นต่อนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แนวโน้มดอกเบี้ยในตลาดโลกลดลง ทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้าไทย จนทำให้ค่าบาทแข็งค่าขึ้นมาบ้าง แต่อยากให้เคลื่อนไหวเหมาะสม เพื่อดูแลการส่งออกของไทย เพราะไทยยังเพิ่งพารายได้จากการส่งออก และขณะนี้เริ่มมีกองทุนใหม่ๆ เข้ามาช่วยหนุนแรงซื้อหุ้น โดยเฉพาะกองทุนวายุภักษ์ 1.5 แสนล้านบาท เปิดขายให้กับรายย่อยทั่วไปแล้ว มองว่าจะเติมเงินเข้าตลาดทุนได้ช่วงนี้ 6-8 หมื่นล้านบาท

สำหรับโจทย์ใหม่ของรัฐบาล เดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ทั้งด้านที่อยู่อาศัย หลังจาก ธอส. ได้ปรับโครงสร้างนี้ช่วยเหลือบ้านอยู่อาศัยได้จำนวนมาก รวมทั้งช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยกลุ่มยานยนต์ได้นัดมาหารือมาตรการดูแลให้ครอบคลุมทุกด้าน จากปัญหาการปฏิเสธปล่อยกู้ซื้อรถของไฟแนนซ์ หลังจาก ธปท.กำกับดูแลสถาบันการเงินให้เข้มแข็งมากขึ้น ได้ตั้งสำรองทั้งหนี้สงสัยจะเสีย และหนี้ NPL เอาไว้อย่างเพียงพอ จึงมองว่า แบงก์รัฐและแบงก์พาณิชย์ จะร่วมมือแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนได้มากขึ้น

รัฐบาลยังเดินหน้า ปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนและคนรวย เพื่อดูแลทั้งภาษีเงินได้บุคคลาธรรมดาและนิติบุคคล รองรับการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะหลายประเทศได้รับอัตราลดลง เพื่อดึงดูดการลงทุน และดูแลกลุ่มรายย่อย ผ่านแนวคิด Negative Income Tax เพื่อเป็น Workfare ดูแลคนทำงานที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่รัฐกำหนด โดยรัฐจ่ายเงินอุดหนุน ในส่วนต่างระหว่างรายได้ของแต่ละคน กับเกณฑ์ขั้นต่ำ สำหรับคนไม่มีงานทำ อาจอุดหนุนเงินให้ระดับหนึ่งแต่อาจน้อยกว่าคนที่ทำงานทั่วไป Negative Income Tax จึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการของรัฐลงอีกทางหนึ่ง

รัฐบาลยังต้องส่งเสริมด้าน ESG เพื่อให้ทุกหน่วยงาน ร่วมกันขับเคลื่อน จึงฝากการบ้านให้กับสำนักงาน ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดทำแผนส่งเสริมบริษัทจดทะเบียน ร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและรองรับการยกร่างกฎหมายฉบับใหม่ในการซื้อขายในตลาดคาร์บอนเครดิต ขณะที่สิงคโปร์เริ่มซื้อขายคาร์บอนเครดิต 17 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันคาร์บอน ยุโรป ซื้อราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันคาร์บอน ขณะที่ประเทศไทยราคาต่ำมากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ แนวโน้มทุกอุตสาหกรรมจะถูกบังคับให้เข้าสู่ระบบดัวกล่าว

นายพิชัย ยังเดินหน้า พัฒนาระบบโลจิสติกส์ ทั้งรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน รวทั้งโครงการแลนด์บริด เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าจากจีน ส่งต่อมายังไทยกระจายไปยังภูมิภาคอื่น การทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมทุกด้าน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวมากขึ้น และเป็นศูนย์กลางเดินทางเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะไทยมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว