ศก.ไทยโตต่ำต่อเนื่อง  หลายปัญหาฉุดศักยภาพต่ำลง

ศก.ไทยโตต่ำต่อเนื่อง หลายปัญหาฉุดศักยภาพต่ำลง

วันศุกร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.

นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) และรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า SCB EIC ประเมินว่าเศรษฐกิจไทย ปี 2567 ยังคงขยายตัวต่ำที่ 2.5% แต่สิ่งที่อยากเน้นปี 2568 ปรับ GDP ลงมาอยู่ที่ 2.6% ชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ ถือว่าเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2568 ที่ 39.4 ล้านคน โดยการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังถูกกดดันจากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ ขณะที่การส่งออกไทยปี 2568 ยังเติบโตต่ำกว่าในอดีต ซึ่งนอกจากเป็นผลจากปัญหาเชิงโครงสร้างแล้ว ยังมาจากปัญหาเชิงวัฏจักรที่เข้ามาฉุดเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ส่งผลต่อภาคการผลิตในประเทศที่ลดลง การตึงตัวของภาคการเงิน และนักลงทุนชะลอการลงทุน ซึ่งในอนาคตระยะสั้น หน่วยงานภาคธนาคาร ภาคการเงิน และภาคการคลังต้องร่วมมือกันแก้ปัญหานโยบายทางการเงินและการคลัง เพื่อช่วยกันประคองเศรษฐกิจไม่ให้หมุนลง ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

“โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีการปรับวัตถุประสงค์มาเป็นการใช้เงินเฉพาะกลุ่ม SCB EIC มองว่าเหมาะสมมากกว่าการเหวี่ยงแห ซึ่งจะทำให้คนกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น คาดว่าจะส่งผลต่อจีดีพีปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.5-0.7% ส่งผลให้จีดีพีขึ้นมาแตะในระดับ 3% แม้ใช้วงเงินสูง แต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่และชั่วคราว ส่งผลให้หนี้สาธารณะไทยอาจมีแนวโน้มชนเพดานในปี 2570”


นายสมประวิณ ย้ำว่าปัญหาหนี้ครัวเรือน คือปัญหาสำคัญที่สุดในขณะนี้ สัดส่วนหนี้อยู่ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจำนวนมาก บวกกับหนี้ภาคเอกชน ซึ่งนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้หนี้ครัวเรือนที่ออกมาหลายรูปแบบทั้ง หนุนสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อการลดเงินนำเข้า FIDF และการแฮร์คัทหนี้ โดยมองว่าหลักการสำคัญในการแก้หนี้ต้องคำนึงถึง Moral Hazard เพื่อให้ระบบการเงินเดินหน้าถูกต้อง และสถาบันการเงินจะต้องสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ร่วมกันแก้หนี้ พร้อมทั้งต้องเตรียมแนวทางเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วนของ ครม. ชุดใหม่เป็นการสานต่อนโยบาย ครม. ชุดก่อน โดยมีจุดเน้นมากขึ้นที่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจกลุ่มเปราะบาง SCB EIC ประเมินชุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะสั้น จะส่งผลบวกต่อธุรกิจ
ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค ท่องเที่ยว และภาคเกษตร ขณะที่ธุรกิจที่มีแรงงานขั้นพื้นฐานในสัดส่วนสูงจะได้รับผลกระทบด้านต้นทุน และธุรกิจพลังงานอาจได้รับผลกระทบด้านรายได้ สำหรับนโยบายส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน จะส่งผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมที่สอดรับเทรนด์โลก และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สำหรับนโยบายสิ่งแวดล้อมยังเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว

สำหรับเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้หลังจากเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก ภาพรวมทั้งปี 2567 จะขยายตัว 2.7% และมีแนวโน้ม Soft landing ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยที่ 2.8% ในปี 2568 แม้ว่าขณะนี้ตลาดจะเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เพราะอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเร็ว จนเข้าเกณฑ์ของดัชนีเตือนเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม SCB EIC ประเมินว่าโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะ Soft landing ยังมีสูงกว่ามาก หากดูจากแรงส่งที่ดีของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักในช่วงครึ่งปีแรก และข้อมูลเร็วสะท้อนการขยายตัวในระยะข้างหน้า โดยอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นเร็ว โดยในช่วงที่เหลือของปี 2567 และ 2568 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 2.0%และธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกรวม 1.50% แต่ยังมีปัจจัยกดดัน ทั้งการเมืองระหว่างประเทศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ การออกมาตรการกีดกันระหว่างประเทศ ทั้งนี้การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งทั่วไปปลายปีนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top