วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
ศก.ไทยโตต่ำต่อเนื่อง  หลายปัญหาฉุดศักยภาพต่ำลง

ศก.ไทยโตต่ำต่อเนื่อง หลายปัญหาฉุดศักยภาพต่ำลง

วันศุกร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : เศรษฐกิจไทย
  •  

นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) และรองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานกลยุทธ์องค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า SCB EIC ประเมินว่าเศรษฐกิจไทย ปี 2567 ยังคงขยายตัวต่ำที่ 2.5% แต่สิ่งที่อยากเน้นปี 2568 ปรับ GDP ลงมาอยู่ที่ 2.6% ชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ ถือว่าเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ ประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2568 ที่ 39.4 ล้านคน โดยการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังถูกกดดันจากแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์ ขณะที่การส่งออกไทยปี 2568 ยังเติบโตต่ำกว่าในอดีต ซึ่งนอกจากเป็นผลจากปัญหาเชิงโครงสร้างแล้ว ยังมาจากปัญหาเชิงวัฏจักรที่เข้ามาฉุดเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ส่งผลต่อภาคการผลิตในประเทศที่ลดลง การตึงตัวของภาคการเงิน และนักลงทุนชะลอการลงทุน ซึ่งในอนาคตระยะสั้น หน่วยงานภาคธนาคาร ภาคการเงิน และภาคการคลังต้องร่วมมือกันแก้ปัญหานโยบายทางการเงินและการคลัง เพื่อช่วยกันประคองเศรษฐกิจไม่ให้หมุนลง ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

“โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีการปรับวัตถุประสงค์มาเป็นการใช้เงินเฉพาะกลุ่ม SCB EIC มองว่าเหมาะสมมากกว่าการเหวี่ยงแห ซึ่งจะทำให้คนกล้าที่จะใช้จ่ายมากขึ้น คาดว่าจะส่งผลต่อจีดีพีปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.5-0.7% ส่งผลให้จีดีพีขึ้นมาแตะในระดับ 3% แม้ใช้วงเงินสูง แต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่และชั่วคราว ส่งผลให้หนี้สาธารณะไทยอาจมีแนวโน้มชนเพดานในปี 2570”


นายสมประวิณ ย้ำว่าปัญหาหนี้ครัวเรือน คือปัญหาสำคัญที่สุดในขณะนี้ สัดส่วนหนี้อยู่ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจำนวนมาก บวกกับหนี้ภาคเอกชน ซึ่งนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการแก้หนี้ครัวเรือนที่ออกมาหลายรูปแบบทั้ง หนุนสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อการลดเงินนำเข้า FIDF และการแฮร์คัทหนี้ โดยมองว่าหลักการสำคัญในการแก้หนี้ต้องคำนึงถึง Moral Hazard เพื่อให้ระบบการเงินเดินหน้าถูกต้อง และสถาบันการเงินจะต้องสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ร่วมกันแก้หนี้ พร้อมทั้งต้องเตรียมแนวทางเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วนของ ครม. ชุดใหม่เป็นการสานต่อนโยบาย ครม. ชุดก่อน โดยมีจุดเน้นมากขึ้นที่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจกลุ่มเปราะบาง SCB EIC ประเมินชุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในระยะสั้น จะส่งผลบวกต่อธุรกิจ
ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค ท่องเที่ยว และภาคเกษตร ขณะที่ธุรกิจที่มีแรงงานขั้นพื้นฐานในสัดส่วนสูงจะได้รับผลกระทบด้านต้นทุน และธุรกิจพลังงานอาจได้รับผลกระทบด้านรายได้ สำหรับนโยบายส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน จะส่งผลบวกต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมที่สอดรับเทรนด์โลก และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต สำหรับนโยบายสิ่งแวดล้อมยังเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว

สำหรับเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้หลังจากเติบโตได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก ภาพรวมทั้งปี 2567 จะขยายตัว 2.7% และมีแนวโน้ม Soft landing ขยายตัวเร่งขึ้นเล็กน้อยที่ 2.8% ในปี 2568 แม้ว่าขณะนี้ตลาดจะเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ เพราะอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเร็ว จนเข้าเกณฑ์ของดัชนีเตือนเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม SCB EIC ประเมินว่าโอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะ Soft landing ยังมีสูงกว่ามาก หากดูจากแรงส่งที่ดีของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลักในช่วงครึ่งปีแรก และข้อมูลเร็วสะท้อนการขยายตัวในระยะข้างหน้า โดยอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นเร็ว โดยในช่วงที่เหลือของปี 2567 และ 2568 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 2.0%และธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องอีกรวม 1.50% แต่ยังมีปัจจัยกดดัน ทั้งการเมืองระหว่างประเทศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ การออกมาตรการกีดกันระหว่างประเทศ ทั้งนี้การดำเนินนโยบายระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งทั่วไปปลายปีนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการค้าโลกในระยะข้างหน้า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • โครงการคุณสู้ เราช่วย ระยะที่ 2  มาแล้ว!! โครงการคุณสู้ เราช่วย ระยะที่ 2 มาแล้ว!!
  • ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก. ธุรกิจชะลอลงทุนตุนสภาพคล่อง ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก. ธุรกิจชะลอลงทุนตุนสภาพคล่อง
  • คลัง ถกเอกชน รับมือ ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา คลัง ถกเอกชน รับมือ ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
  • ธปท. เคาะ 3 กลุ่มทุนฯ ตั้ง Virtual Bank ธปท. เคาะ 3 กลุ่มทุนฯ ตั้ง Virtual Bank
  • เศรษฐกิจไทยเม.ย.ดีขึ้น การผลิต-บริการ-ลงทุนเอกชนหนุน เศรษฐกิจไทยเม.ย.ดีขึ้น การผลิต-บริการ-ลงทุนเอกชนหนุน
  • คลังชี้สินเดือนพ.ค.นี้ ได้ข้อสรุปโครงการ กระตุ้นศก.1.57แสนล. เผยยอดขอเกินวงเงิน คลังชี้สินเดือนพ.ค.นี้ ได้ข้อสรุปโครงการ กระตุ้นศก.1.57แสนล. เผยยอดขอเกินวงเงิน
  •  

Breaking News

วิจารณ์แซ่ด!‘สองหมอใหญ่โยงคดีชั้น 14 จ่อได้เลื่อนขั้น

'นฤมล'สั่งสอบข้อเท็จจริง'ครูกาญจนบุรี'ร้องขอความเป็นธรรม หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

'ราชัน'มาตามนัด!ได้4ทีมสุดท้ายสโมสรโลก

'ธนกร'ห่วงต่อรองภาษีทรัมป์จี้รบ.เตรียมแผนสำรอง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved