วันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / โลกธุรกิจ
‘มนพร’ เร่งขับเคลื่อน Mega Project พัฒนาคมนาคมไทยสู่ฮับขนส่งทางทะเล - อากาศ

‘มนพร’ เร่งขับเคลื่อน Mega Project พัฒนาคมนาคมไทยสู่ฮับขนส่งทางทะเล - อากาศ

วันอังคาร ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 13.43 น.
Tag : คมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน มนพร
  •  

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวปาฐกถา หัวข้อ “Mega Project Mega Power : พลิกโฉมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” ในงาน “Go Thailand 2025 : “Women Run the World” 45 ปี ฐานเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 ณ TRUE ICON HALL ICON SIAM ว่า  รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประกอบกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีนโยบายในการเดินหน้าการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ หรือ Mega Project เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยท่ามกลางความท้าทายต่าง ๆ โดยรัฐบาลต้องการเปลี่ยน “ความท้าทาย” ให้กลายเป็น “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ และสังคม” ของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม กระทรวงคมนาคมจึงได้เร่งรัดดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างโอกาสและพลิกโฉมให้กับประเทศไทยผ่านการลงทุนทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ อย่างเป็นระบบ 

ทั้งนี้ประเทศไทยมีที่ตั้งอยู่ตรงกลางของภูมิภาคอาเซียน ทำให้มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการเดินทาง หากพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมได้จะทำให้ประชาชนทั่วโลกที่จะเดินทางมาในภูมิภาคอาเซียนต้องมาประเทศไทยก่อน แล้วต่อเครื่องบินเพื่อเดินทางไปประเทศจุดหมายปลายทาง หรือสินค้าต้องขนส่งมาที่ประเทศไทยก่อนที่จะกระจายต่อไปยังประเทศต่าง ๆ โดยรอบผ่านระบบโครงข่ายคมนาคมที่ดีของไทย


อย่างไรก็ตามปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศมาจากภาคการท่องเที่ยว จากสถิติที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 35 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% เทียบกับปีที่แล้ว และนำรายได้เข้าประเทศกว่า 1.67 ล้านล้านบาท สร้างการจ้างงานกว่า 7 ล้านคน หรือ 20% ของการจ้างงานทั้งหมด และในปีนี้ไทยครองตำแหน่ง “Destination of the Year 2025” จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือน แสดงให้เห็นว่าภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและอนาคต กระทรวงคมนาคมจึงมุ่งขับเคลื่อนโครงข่ายคมนาคมเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมีแผนก่อสร้างท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ ครอบคลุมทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน 3 แห่ง ได้แก่ 1) ท่าเรือสำราญบริเวณแหลมบาลีฮาย เมืองพัทยา 2) ท่าเรือสำราญภูเก็ต และ 3) ท่าเรือสำราญเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะส่งผลให้มีเรือสำราญขนาดใหญ่แวะเข้าเทียบท่ามากขึ้น สร้างเม็ดเงินและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากเดิมไม่น้อยกว่า 7 - 8 เท่า

ขณะเดียวกันจากข้อมูลของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่าในปี 2575 จะมีนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเดินทางมาประเทศไทยทางเครื่องบินถึง 240 ล้านคน กระทรวงคมนาคมจึงมีแผนจะพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติหลักให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) กำลังพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 3 โดยขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก พัฒนาอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ด้านทิศใต้ และทางวิ่งเส้นที่ 4 เพิ่มเติม ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมการพัฒนา วงเงินลงทุน 170,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกันท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท. มีแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศแห่งใหม่ และปรับปรุงอาคารผู้โดยสารในประเทศหลังเดิม วงเงินลงทุน 36,830 ล้านบาท ส่วนท่าอากาศยานเชียงใหม่และท่าอากาศยานภูเก็ตที่มีสภาพแออัด มีข้อจำกัดด้านกายภาพ ทำให้ไม่สามารถขยายทางวิ่งและอาคารผู้โดยสารได้อีก กระทรวงคมนาคมจึงมีแผนการพัฒนาท่าอากาศยานแห่งใหม่ในภาคเหนือ ได้แก่ ท่าอากาศยานล้านนา ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ซึ่งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานเชียงใหม่เพียง 22 กิโลเมตร เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศในภาคเหนือ นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาศูนย์กลางการเดินทางทางอากาศแห่งใหม่ในภาคใต้ ได้แก่ ท่าอากาศยานอันดามัน ในพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งห่างจากท่าอากาศยานภูเก็ตประมาณ 23 กิโลเมตร

นอกจากนี้การขนส่งสินค้าทางทะเล จากสถิติการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในปี 2566 สัดส่วนมูลค่าการค้าของไทยกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก อยู่ที่ 573,583 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สำหรับประเทศในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนมีมูลค่าการนำเข้าและส่งออก อยู่ที่ 115,638 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยอาศัยประเทศไทยเป็นประตูในการนำเข้าและส่งออกสินค้า เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าและเป็นประตูในการนำเข้าและส่งออกของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง กระทรวงคมนาคมจึงเร่งดำเนินการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญ ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ให้สามารถรองรับจำนวนตู้สินค้าได้มากถึง 18 ล้านตู้/ปี วงเงินลงทุน 114,030 ล้านบาท และท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ให้สามารถรองรับสินค้าปิโตรเลียมมากถึง 31 ล้านตัน/ปี วงเงินลงทุน 59,350 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งโครงการสำคัญของรัฐบาลนี้ คือ การพัฒนาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งมีองค์ประกอบ ได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกที่จังหวัดชุมพรและระนอง เชื่อมโยงท่าเรือสองแห่งด้วยรถไฟทางคู่และมอเตอร์เวย์ ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร เมื่อโครงการเกิดขึ้นจะเป็นเส้นทางขนส่งทางทะเลเส้นทางใหม่ของโลก จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 15% และลดระยะเวลาการขนส่งทางทะเลระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดียได้ 4 วัน ซึ่งจะพลิกโฉมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลแห่งใหม่ของภูมิภาคและของโลกในอนาคต 

-031

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ​ขบ. มีมติห้ามรถโดยสารสองชั้นเดินรถในเส้นทางเสี่ยง สี่แยกกบินทร์บุรี - วังน้ำเขียว ​ขบ. มีมติห้ามรถโดยสารสองชั้นเดินรถในเส้นทางเสี่ยง สี่แยกกบินทร์บุรี - วังน้ำเขียว
  • กสม.ชี้ EIA รถไฟความเร็วสูง\'กรุงเทพฯ-นครราชสีมา\'ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน กสม.ชี้ EIA รถไฟความเร็วสูง'กรุงเทพฯ-นครราชสีมา'ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน
  • ดีเดย์ ต.ค.นี้!‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ครอบคลุมทุกสายทั้งกรุงเทพและปริมณฑล ดีเดย์ ต.ค.นี้!‘รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย’ ครอบคลุมทุกสายทั้งกรุงเทพและปริมณฑล
  • ไทยจับมือบังกลาเทศ เชื่อมโยงท่าเรือระนอง - จิตตะกอง ไทยจับมือบังกลาเทศ เชื่อมโยงท่าเรือระนอง - จิตตะกอง
  • มนพร เผยเชื่อมโยงท่าเรือระนอง - ท่าเรือจิตตะกอง ยกระดับท่าเรือไทยสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ทางทะเลในภูมิภาคอาเซียน มนพร เผยเชื่อมโยงท่าเรือระนอง - ท่าเรือจิตตะกอง ยกระดับท่าเรือไทยสู่การเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ทางทะเลในภูมิภาคอาเซียน
  • ไทยเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรก ไทยเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมบริการเรียกรถผ่านแอปฯ ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งแรก
  •  

Breaking News

(คลิป) อดีตฝ่ายแค้น'พรรคส้ม'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ'ทักษิณ'ไม่ใช่'ทหาร'

(คลิป) เจาะลึก! เล่ห์เหลี่ยม'พรรคส้ม' วาทกรรมลอยๆ ร่างนิรโทษกรรม ม.112

เลย์ออฟครั้งใหญ่! 'กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ'ปลดเจ้าหน้าที่ 1,350 คน

เก๋งเสียหลักตกคลอง มุดท่อระบายน้ำ ดับสลด 2 เจ็บ 2

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved